การบริหารจัดการส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนไทยของสำนักงานคณะกรรมการ การส่งเสริมการลงทุนโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการส่งเสริมการลงทุน, นักลงทุนไทย, สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน, ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนไทยของสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุนโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed method) คือ การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) และการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) โดยแบ่งเป็น ๓ ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ ๑ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาการบริหารจัดการภาครัฐของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและศึกษาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากการทบทวนวรรณกรรม และการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องโดยตรงจำนวน ๒๑ คนโดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกที่มีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนาความ ขั้นตอนที่ ๒ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ศึกษาการบริหารจัดการภาครัฐของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและศึกษารูปแบบการศึกษาการบริหารจัดการภาครัฐของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้แบบสอบถามจำนวน ๒๔๕ คน นำข้อมูลมาวิเคราะห์และทางสถิติและใช้วิธีบรรยายแบบความเรียง สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และขั้นตอนที่ ๓ เป็นการประชุมสนทนากลุ่ม (Focus group discussion) จำนวน ๑๐ คน เพื่อทำการตรวจประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารจัดการภาครัฐของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ผลการศึกษา พบว่า ๑) สภาพบริบทการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนไทยของสำนักงานคณะกรรม การส่งเสริมการลงทุน พบว่า มีการดำเนินงานบริหารจัดการได้ดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่า จะต้องปรับภาพลักษณ์และมุมมองของผู้ให้บริการให้เห็นถึงขั้นตอนการดำเนินการที่ชัดเจน และการเข้าถึงการให้บริการที่สะดวกและง่าย ๒) รูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนไทยของสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุนโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรียงลำดับตามความสำคัญ ได้แก่ คุณธรรม ความรู้ ความมีเหตุผล ความมีภูมิคุ้มกัน และความพอประมาณ โดยมีปัจจัย ๖ ประการ ได้แก่ การพึ่งตนเองได้ การอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ประโยชน์ของประเทศชาติที่ได้รับ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การสร้างเครือข่าย และความยั่งยืน ในส่วนการบริหารจัดการในด้านต่างๆ เรียงลำดับตามความสำคัญ ได้แก่ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning) การพัฒนาองค์การ (Organization Development) การการบริหารจัดการบุคลากรที่มีความสามารถสูง (Talent Management) การนำองค์กร (Leadership) การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Evaluation) งบประมาณเชิงยุทธศาสตร์แบบบูรณาการ (Strategic Budgeting) และการสร้างเครือข่าย (Networking)
เอกสารอ้างอิง
Board of Investment. (2015). Office of the Investment Promotion Strategy for 7 years 2015 - 2021. Bangkok : Investment Service Center, Board of Investment.
Chanwit Wasanthanarat. (2013). Happy Workplace. Bangkok: Song Kha Creation.
Holger Görgand David Greenaway. (2003). Much a Do About Nothing? Do Domestic Firms Really Benefit From Foreign Direct Investment?. Nottingham. School of Economics University Of Nottingham.
Hood, Christopher. (1991). A Public Management for All Season?. Public Administration. Vol. 69. Blackwell Publishing. : 3-19
Kucerova. (2013). Factual Approach in Decision Making - The Prerequisite of Success in Quality Management. Slovak. Slovak University of Technology.
Somporn Thepsithar. (2003). Sufficiency Economy Helping to Solve Poverty and Corruption. Bangkok: National Youth Council.
Sonthaya Polsri. (2007). Learning Network in Community Development. 2nd edition, Bangkok : Odeon Store.
Unthong, P. & Ekachaiphaibul, S. (2016). Checklist Sustainable Organization. Bangkok: SR Center.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2019 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

