การพัฒนาองค์ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับศาสนสมบัติแก่เจ้าอาวาส ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบทความรู้ สภาพปัญหาการใช้กฎระเบียบศาสนสมบัติวัดของเจ้าอาวาสวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศึกษาทฤษฎีการพัฒนาความรู้ด้านกฎหมายสำหรับเจ้าอาวาส 2) เพื่อพัฒนาและนำเสนอกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับศาสนสมบัติแก่ เจ้าอาวาสในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน มีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 17 รูป/คน สนทนากลุ่มเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 รูป/คน วิจัยเชิงปริมาณด้วยการทดลองการอบรมให้ความรู้เจ้าอาวาส จำนวน 28 รูป ประเมินผลความรู้ก่อนและหลังการทดลองด้วยแบบประเมินความรู้ด้านกฎหมายและการสะท้อนคิดหลังอบรม วิเคราะห์สถิติด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และอุปนัยวิธี
ผลการพบวิจัยพบว่า 1) คดีความวัดที่ศาลจังหวัดพระนครศรรีอยุธยามากกว่าร้อยละ 91.6 เป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องที่ดินวัด สาเหตุเพราะเจ้าอาวาสขาดความรู้ความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ ศาสนสมบัติทำให้เกิดปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้น เจ้าอาวาสส่วนใหญ่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ 2) มีการนำหลักธรรมมาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบหลักสูตรกระบวนการพัฒนาและส่งเสริมความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับศาสนสมบัติแก่เจ้าอาวาสในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีระยะเวลาอบรม 2 วัน มีเนื้อหาอบรมประกอบด้วย การสร้างแรงบัลดาลใจให้รักในการเรียนรู้กฎหมาย การสร้างความเข้าใจในเนื้อหากฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดการอารมณ์เชิงปฏิบัติการ และพันธสัญญาที่ตั้งใจจะกลับไปปฏิบัติ ผลการทดลองพบว่า เจ้าอาวาสที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ด้านกฎหมายเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.66 องค์ความรู้จากการวิจัย คือ Peak and Peak Model
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ ยินยอมว่าบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร
เอกสารอ้างอิง
National Office of Buddhism. (2022). Annual Report 2022. Retrieved February 2, 2023, from https://onab.go.th/th/content/category/detail/id/482/iid/69956
Netsopha, N. (2017). Developing the Blended Instructional Model for Enhancing Students’ Sammadhitthi of the Lower Secondary Education Using with the R-C-A Question Technique. Journal of Yala Rajabhat University, 12(2), 1-14.
Phra Dhammapitaka (P.A. Payutto). (1997). Buddhism in Asia. (1st ed.). Bangkok: Dhamma Society.
Phra Ratchaworamethi et al. (2022). Strategic Plan for the Reform of Buddhist Affairs B.E. 2560-2564 “Translating Policy into Practice”. Retrieved February 2, 2023, from https://pasangha.com/แผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา
Phra Theppariyattisuthi (Worawit Kongkapañño). (1997). Lecture Materials on the Administration of the Sangha and Buddhist Affairs. Bangkok: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Phrakrusangharak Manop Akkamanavo, Phradhrusuthikittibundit (Krissada Kittisobhano), & Phramaha Sunan Sunando. (2024). Appropriate Property Management Model for Monasteries in Phra Nakhon Si Ayutthaya Province. Journal of Interdisciplinary Innovation Review, 7(1), 207-221.