รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2

Main Article Content

ลาวัลย์ นนทะสี
ชยากานต์ เรืองสุวรรณ
วิมลมาศ ปฐมวณิชกุล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน 3) สร้างรูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน 4) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน แบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน เครื่องมือที่ใช้ แบบสัมภาษณ์ ขั้นตอนที่ 2 ยืนยันองค์ประกอบและตัวชี้วัดโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน เครื่องมือที่ใช้ แบบประเมิน ระยะที่ 2 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็น กลุ่มตัวอย่าง 319 คน เครื่องมือที่ใช้ แบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.98 ระยะที่ 3 สร้างรูปแบบมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ร่างรูปแบบ โดยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เครื่องมือที่ใช้ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 ประเมินรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน เครื่องมือที่ใช้ แบบประเมิน ระยะที่ 4 ทดลองใช้รูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ แบบประเมินการใช้รูปแบบ แบบประเมินคู่มือการใช้รูปแบบ และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น และค่า t-test


 ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน มี 5 องค์ประกอบ 35 ตัวชี้วัด มีความเหมาะสมโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด (equation = 4.93, S.D. = 0.07) 2) สภาพปัจจุบันโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง (equation = 3.29, S.D. = 0.71) สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด (equation = 4.65, S.D. = 0.35) ค่าดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNImodified) อยู่ระหว่าง 0.34 - 0.51 3) รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน KATAD มี 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น (K) 2) ด้านการได้มาของภูมิปัญญาท้องถิ่น (A) 3) ด้านการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น (T) 4) ด้านการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นไปใช้ (A) 5) ด้านการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น (D) องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน มี 6 ส่วน ประกอบด้วย (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3) เนื้อหา (4) วิธีการดำเนินงานมี 5 กิจกรรม ประกอบด้วย (1)กิจกรรมสำรวจภูมิปัญญา (2) กิจกรรมค้นหาสิ่งเก่า (3) กิจกรรมบอกเล่าของดี (4) กิจกรรมบ่งชี้ปฏิบัติ (5) กิจกรรมพัฒนาต่อยอด มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (equation = 4.60, S.D. = 0.40) 4) ผลการทดลองใช้รูปแบบฯ พบว่า หลังการใช้รูปแบบฯมีการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในโรงเรียน สูงกว่า ก่อนการใช้รูปแบบฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ และความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

Charoenphon, A. (2007). Knowledge Management from Learning Sources of Educational Institutions. (Doctoral Dissertation). Silpakorn University. Bangkok.

Davenport, T. H., & Prusak, L. (1998). Working Knowledge. Massachusetts: Press Boston.

Hakaew, S. (2015). Development of a Community Participation Management Model in Educational Management in Educational Institutions under the Office of the Basic Education Commission. Journal of Community Development Research, 8(1), 32-46.

Kanokporn, C. (2012). Knowledge Management Model of Local Wisdom in Basketry Handicraft: A Case Study of a Community Enterprise Nakhon Ratchasima Province. (Doctoral Dissertation). National Institute of Development Administration. Bangkok.

Laowreandee, W. (2007). Techniques and Tactics for Developing Thinking Skills in Learner-Centered Learning Management Important. Nakhon Pathom: Faculty of Education Silpakorn University.

Maha Sarakham Primary Educational Service Area Office 2. (2021). Action Plan. Maha Sarakham: Policy and Planning Department.

Ministry of Education. (2010). National Education Act 1999, Amended (No.3) 2010. Bangkok: Phrik Wan Graphic.

Ministry of Education. (2012). Thai Wisdom in Education Management. Retrieved November 13, 2023, from https://www.moe.go.th/ภูมิปัญญาไทยในการจัดกา/

Office of the National Economic and Social Development Broad. (2017). National Strategy (2018-2037). Bangkok: Office of the National Economic and Social Development Broad.

Panich, W. (2008). Knowledge Management. (4th ed.). Bangkok: Tathata Publication Company Limited.

Puangrat, T. (2000). Research Methods in Behavioral and Social Sciences. (7th ed.). Bangkok: Bureau of Educational and Psychological Testing Srinakharinwirot University.

Wasi, P. (1993). The Study of the Nation and Local Wisdom: Folk Landscape and Rural Development. (1st ed.). Bangkok: Amarin Printing and Publishing.

______. (2007). Knowledge Management: The Process of Releasing Humans to their Potential, Freedom and Happiness. (2nd ed.). Bangkok: Institute for the Promotion of Knowledge Management for Society (KST).