การศึกษาวิเคราะห์กระบวนการสร้างคำในมหากาพย์เสานทรนันทะ ตามหลักคัมภีร์อัษฏาธยายีของปาณินิ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประวัติและผลงานของปาณินิและพระอัศวโฆษ 2) เพื่อศึกษาบทต่าง ๆ ลักษณะของฉันทลักษณ์และอลังการในมหากาพย์เสานทรนันทะ 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์กระบวนการสร้างคำตามหลักไวยากรณ์คัมภีร์อัษฏาธยายีของปาณินิ ฉันทลักษณ์ และอลังการ ในมหากาพย์ เสานทรนันทะ บทความวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยกระบวนการวิจัยเชิงเอกสาร (documentary research) กรณีศึกษาคือกระบวนการสร้างคำในมหากาพย์เสานทรนันทะตามหลักคัมภีร์อัษฏาธยายีของปาณินิ ได้มาโดยการเก็บรวมรวบเอกสารข้อมูลทั้งชั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิ และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) ปาณินิมีชีวิตอยู่ในช่วง 400 ปีก่อน ค.ศ. เกิดในสกุลพราหมณ์ มีชื่อว่า ปาณินิ ท่านมีผลงานคือคัมภีร์อัษฏาธยายี ภาษาสันสกฤตเป็นภาษาที่ละเอียดผ่านการคัดกรองมาอย่างดี ทั้งเสียง อักษร และหลักไวยากรณ์ จนได้รับยกย่องเป็นบิดาภาษาสันสกฤตมาตรฐาน ผลงานของท่านยังคงเป็นต้นแบบที่เป็นพื้นฐานของทฤษฎีทางภาษาศาสตร์สมัยใหม่ มีอิทธิพลต่อหลักคณิตศาสตร์ ภาษาศาสตร์และปรัชญาอินเดีย 2) พระอัศวโฆษมีชีวิตอยู่ระหว่าง 50 ปีก่อน ค.ศ. ถึง ค.ศ. 100 เป็นกวีคนแรกที่แต่งบทละครสันสกฤต ได้รับ ยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งบทละครสันสกฤต ท่านได้นำไวยากรณ์สันสกฤตมาพัฒนาต่อยอดผลิตผลของไวยากรณ์ ในรูปของบทกวี เช่น พุทธจริต เสานทรนันทะ เป็นต้น จนได้รับยกย่องว่าเป็นมหากาพย์ที่มีอิทธิพลต่อ ความเจริญรุ่งเรืองของวรรณคดีสันสกฤตในสมัยต่อมา 3) กระบวนการสร้างคำตามตำราเรียนในปัจจุบันเป็นการทำให้ง่ายขึ้นสำหรับการเรียนไวยากรณ์สันสกฤตแบบใหม่ ซึ่งไม่ละเอียดเหมือนกระบวนการสร้างคำแบบอ้างอิงสูตร ปาณินิ ส่วนฉันทลักษณ์ในมหากาพย์เสานทรนันทะ สรรคที่ 1, 2 และ 3 จำนวน 169 โศลก มีฉันท์ประเภทต่าง ๆ คือ 1) อนุษฏุภฉันท์ 8 พยางค์ 2) ตริษฏุภฉันท์ 11 พยางค์ 3) อติชคตีฉันท์ 13 พยางค์ 4) ศักวรีฉันท์ 14 พยางค์ 5) วาควัลลภฉันท์ โศลกที่มีคณะไม่เท่ากัน 6) อุปชาติ โศลกที่มีคณะเสมอกันครึ่งหนึ่ง และอลังการ เป็นต้น
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ ยินยอมว่าบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร
References
Bhattacharya B. (1976). Asvaghosa: A critical Study. Culcatta: Santiniketan, Bisvabharati publication.
Bod, R. (2013). A New History of the Humanities: The Search for Principles and Patterns from Antiquity to the Present New York. New York: Oxford University Press.
Kunhan Raja, C. (1962). Survey of Sanskrit Literature. Bombey: Bharata Vidya Bhavan.
Cardona, G. (1976). Pāṇini: A Survey of Research. Delhi: Motilal Banarsidass.
Covill, L. (2009). A Metaphorical Study of Saundarananda. New Delhi: Motilal Banarsidass Publishe.
Sarapatnuek, J. (1928). History of Sanskrit Literature (Re-view version). Bangkok: Graduate school, Silpakorn University.
Dvivedī, K. (1983). Laghusiddhāntakaumudī. Vārānasī: visvavidyalaya.
Johnston E.H. (1928). Saundarananda Kāvya. Lahor: University of Punjab.
Keith, A.B. (1973). A History of Sanskrit Literature. Delhi: oxford University Press.
Kiparsky, P. (2008). On the Architecture of Panini’s Grammar. Retrieved May 3, 2019, from https://www.researchgate.net/publication/221145943.
Kumar, S. (1979). Asvaghosa as a Poet and Dramatist: a Critical Study. (Doctoral Dissertation). The University of Burdwan. West Bengal.
Nariman, J.K. (1992). Literacy History of Buddhist Sanskrit. Delhi: Motilal Banarsidass.
Phragandhasarabhiwong. (2008). Vuttodayamanjari: A Comparative Study of Pali Prosody. Bangkok: C.A.I Centre Ltd.
Rajaradhakantadeva. (1987). Sabdakalpadaruma. Delhi: New Gian offset Printers.
Luemsai, S. (2000). Asvaghosa’s Saunadarananda Epic. Bangkok: Mahachulalongkornrajavidayalaya University.
Singh, U. (2008). A History of Ancient and Early Medieval India. Delhi: Pearson Education India.
Staal, F. (1988). Universals: studies in Indian logic and linguistics. USA: University of Chicago Press.
The Authority of His Majesty’s Secretary of State for India in council. (AHSI). (1909). The Imperial Gazetteer of India, Vol. II. London: Oxford University Press.
Warder, A.K. (1974). Indian Kāvya Literature: Origins and Formation of the Classical Kāvya. Delhi: Motilal Banarsidass.