ขบวนการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนต่อการคัดค้านโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยครบวงจร บ้านป่าตึงน้อย ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่นำไปสู่การรวมกลุ่มของภาคประชาชนต่อการคัดค้านโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยครบวงจร บ้านป่าตึงน้อย ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษารูปแบบและยุทธวิธีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนต่อการคัดค้านโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยครบวงจร การศึกษาใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีการรวบรวมข้อมูลเอกสาร การสำรวจพื้นที่และการสัมภาษณ์เจาะลึกจากกลุ่มแกนนำชาวบ้าน กลุ่มผู้นำชุมชนและกลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมในการคัดค้านการก่อสร้างโครงการ จำนวนรวมทั้งสิ้น 29 คน ผลการศึกษาพบว่า
- ปัจจัยที่นำไปสู่การรวมกลุ่มของภาคประชาชนต่อการคัดค้านโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยครบวงจร เพราะประชาชนมีความวิตกกังวลเรื่องผลกระทบต่อทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาผลกระทบกลิ่นเหม็นจากขยะ ปัญหาฝุ่นละออง ปัญหาการเกษตร ปัญหาสาธารณูปโภคและบริโภค ปัญหาสาธารณสุขที่มีผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ และยังไม่พอใจที่โครงการดังกล่าวขาดความโปร่งใส่และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ออกมาคัดค้านการดำเนินงานก่อสร้างโครงการดังกล่าวฯ
- รูปแบบและยุทธวิธีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนต่อการค้านค้านโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยครบวงจร พบว่า มียุทธวิธีการเคลื่อนไหวมีหลากหลายรูปแบบเช่น ยุทธวิธีตามช่องทางระบบการเมืองปกติ ได้แก่ การยื่นหนังสือผ่านกลไกของระบบราชการ การต่อสู้ผ่านใช้สิทธิตามกฎหมาย และยุทธวิธีการขัดขวางท้าทายระบบปกติ ได้แก่ การกดดัน มีการประชุมนุมประท้วงปิดถนน การสื่อสารกับสาธารณะ นอกจากนั้นการใช้กลไกทางสังคมมาเป็นเครื่องมือในการคว่ำบาตรทางสังคมในการต่อสู้อีกด้วย
ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้
ขบวนการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในสภาวะปัจจุบัน เป็นการแสดงออกถึงบทบาท หน้าที่ตามสิทธิพลเมืองในการมีส่วนร่วมทางการเมือง ดังนั้น ภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบควรเปิดโอกาสและเป็นผู้จัดเวทีให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในท้องถิ่นร่วมกับภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะทำให้ภาครัฐได้รับรู้ถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในอนาคต ผลการศึกษานี้คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่สนใจ ใฝ่การเรียนรู้การเคลื่อนไหวของภาคประชาชน และอาจนำไปสู่การขยายขอบเขตการแสวงหาเครื่องมือสู่การพัฒนาประชาธิปไตยของไทยต่อไป
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ ยินยอมว่าบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร