พลวัตของการก่อการร้ายร่วมสมัย : ปัจจัยขับเคลื่อน อัตลักษณ์ และความเสี่ยงในยุคดิจิทัล

ผู้แต่ง

  • ญิฮาด มะลูลีม วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
  • จรัญ มะลูลีม วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
  • ณัฐกฤต เกิดกูลกิตติ์ วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
  • เปรมศิริ ดิลกปรีชากุล วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก

คำสำคัญ:

ความคับข้องใจเชิงสัมพัทธ์, การหลอมรวมอัตลักษณ์, การก่อการร้ายร่วมสมัย, ความเสี่ยงในยุคดิจิทัล, นโยบายความมั่นคง P/CVE

บทคัดย่อ

     การศึกษาครั้งนี้มุ่งวิเคราะห์พลวัตของการก่อการร้ายในยุคดิจิทัล โดยบูรณาการกรอบแนวคิด “ความคับข้องใจเชิงสัมพัทธ์” (Relative Deprivation : RD) และ “การหลอมรวมอัตลักษณ์” (Identity Fusion : IF) เพื่ออธิบายกลไกทางจิตวิทยา–สังคมที่ผลักดันให้บุคคลเข้าสู่พฤติกรรมสุดโต่ง โดยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงปี พ.ศ. 2567–2568 ครอบคลุมพื้นที่ศึกษาหลักในประเทศไทย (เน้นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) และกรณีศึกษาเปรียบเทียบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งานวิจัยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) วิเคราะห์ปัจจัยขับเคลื่อนการก่อการร้ายในระดับโครงสร้างและจิตวิทยา 2) ศึกษาพลวัตของอัตลักษณ์และการใช้เครื่องมือดิจิทัลและ 3) ประเมินความเสี่ยงใหม่และเสนอแนวทางเชิงนโยบาย ระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบคุณภาพพหุวิธี (Multi-method Qualitative Approach) เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย (1) แบบบันทึกการวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis Form) จากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิและรายงานความมั่นคงกว่า 200 แหล่ง (2) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (Semi-structured Interview Guide) ที่ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (IOC) จากผู้ทรงคุณวุฒิ โดยเก็บข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการรวม 7 ท่าน และ (3) ตารางวิเคราะห์กรณีศึกษาเปรียบเทียบ (Case Analysis Matrix) เพื่อวิเคราะห์ ความเชื่อมโยงของกลุ่ม Al-Qaeda, ISIS และกลุ่มติดอาวุธในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้อมูลที่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)และตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation)
     ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ พบว่า 1) ด้านปัจจัยขับเคลื่อน: ความคับข้องใจเชิงสัมพัทธ์(RD)  ทำหน้าที่เป็น “เชื้อเพลิง” จากความไม่พอใจเชิงโครงสร้าง เช่น ความเหลื่อมล้ำและการถูกกดทับทางอัตลักษณ์ ขณะที่การหลอมรวมอัตลักษณ์ (IF) เป็น “ชนวน” ที่เปลี่ยนอารมณ์สู่ความรุนแรง โดยเฉพาะในเยาวชนที่แสวงหาตัวตนและถูกชักจูงผ่านเครือข่ายสังคม 2) ด้านพลวัตอัตลักษณ์และดิจิทัล: พบการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างจากลำดับชั้นสู่เครือข่ายกระจายศูนย์(Decentralized Networks) อย่างชัดเจน มีการใช้กลยุทธ์เพศสภาพ (Gender Strategy) ดึงดูดสตรีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และใช้การโฆษณาชวนเชื่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อคัดเลือกสมาชิกแบบเจาะจง (Micro-targeting) 3) ด้านความเสี่ยงและนโยบาย: ความเสี่ยงใหม่เกิดจากการใช้ AIและพื้นที่ออนไลน์เป็น “ห้องบ่มเพาะ” ความรุนแรงที่ตรวจสอบยาก ผลการศึกษาเสนอแนวทาง“นโยบายความมั่นคง P/CVE” ที่เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางอัตลักษณ์ (Identity Resilience) การดึงชุมชนและสตรีเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ และการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล

Downloads

Download data is not yet available.

ประวัติผู้แต่ง

ญิฮาด มะลูลีม, วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก

นักวิจัย นักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติ นักแข่งรถ นักกรีฑายอดเยี่ยมสามเหรีญทอง

เอกสารอ้างอิง

จิตราภรณ์ โสตถิกุล. (2565). การก่อการร้ายทางไซเบอร์: ปัญหาการนิยาม เขตอำนาจ และการบังคับใช้กฎหมาย. วิทยานิพนธ์ปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พิมพ์ชนก จันทบูรณ์ และสุมนทิพย์ จิตสว่าง. (2566). “บทบาทของผู้หญิงในการก่อการร้าย.” วารสารรัชต์ภาคย์. 17(53) : 85-102.

วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก. (2567). รายงานวิจัย การก่อการร้ายในโลกร่วมสมัย : ที่มาและผลกระทบต่อสังคมโลก. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกริก.

เสนาะ พรรณพิกุล. (2560). “ปัจจัยที่มีผลต่อการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย.” วารสารรังสิตบัณฑิตศึกษาในกลุ่มธุรกิจและสังคมศาสตร์. 2(2) : 15-27.

Conway, M., Scrivens, R., & Macnair, L. (2019). “Right wing extremists’ persistent online presence: History and contemporary trends.” International Centre for Counter Terrorism – The Hague. 10(2) : 1–15.

Doosje, B., Loseman, A., & van den Bos, K. (2013). “Determinants of radicalization of Islamic youth in the Netherlands : Personal uncertainty, perceived injustice, and perceived group threat.” Journal of Social Issues. 69(3) : 586–604.

Guests, G., Namey, E., & Chen, M. (2020). "A simple method to assess and report thematic saturation in qualitative research." PLOS ONE. 15(5) : e0232076.

Gurr, T. R. (1970). Why men rebel. Princeton University Press.

Kruglanski, A. W. et al. (2014). "The psychology of radicalization and deradicalization : How significance quest impacts violent extremism." Political Psychology. 35(S1) : 69–93.

National Consortium for the Study of Terrorism and Responses to Terrorism (START). (2024). "Global Terrorism Database (GTD)." [Online]. Available : https://www.start.umd.edu/gtd Retrieved November 6, 2025.

Ness, C. D. (2005). "The rise in female violence.” Daedalus. 136(1) : 84–93.

Swann, W. B. et al. (2012). “Dying and killing for one's group : Identity fusion moderates responses to intergroup versions of the trolley problem.” Psychological Science. 21(8) : 1176–1183.

Yodsurang, S. (2024). “การก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบในประเทศไทย.” วารสารวิชาการการจัดการภาครัฐและเอกชน. 4(3) : 171-182.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-27

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research Articles)