รูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการณ์และสภาพปัจจุบันสำหรับการสร้างรูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 2)สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐ ในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 3)ประเมินรูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี เริ่มต้นด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหาต่อมาดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยวิธีการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างและดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการสนทนากลุ่มเพื่อยืนยันรูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 พบว่าผลการสังเคราะห์เอกสาร แนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยการศึกษาหลักการ แนวคิด สามารถสังเคราะห์รูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ได้ 9 ด้าน 61 ข้อ ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 โดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ พบว่าครูผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 18.4 และเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 81.6 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ โดยใช้วิธีการสกัดปัจจัยเพื่อพิจารณาจัดกลุ่มตัวแปรด้วยวิธีวิเคราะห์องค์ประกอบหลักใช้วิธีหมุนแกนแบบออโธโกนอล ด้วยวิธีแวริแมกซ์ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏว่ามี 8 ด้าน 42 ข้อ ขั้นตอนนี้ผู้วิจัยตั้งชื่อองค์ประกอบของแต่ละด้านใหม่และทำการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ผลการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงสอดคลอง พบว่า ตัวแปรแฝงทุกตัวมีความเชื่อมั่นเพียงพอสามารถนำมากำหนดรูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของรัฐในภาคใต้ ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาต่อไป ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 โดยจัดสนทนากลุ่ม ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ มี 8 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านนโยบาย 2) ด้านหลักสูตร 3) ด้านการบริหารงบประมาณที่มุ่งเป้าหมายภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ 4) ด้านการบริหารงบประมาณที่มุ่งเป้าหมายภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ 5) ด้านการจัดการเรียนการสอน 6) ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน 7) ด้านการวัดและประเมินผล 8) ด้านความเป็นเลิศ
ข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษา และสถานประกอบการในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ภายใต้อุบัติการณ์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Colaizzi, P. (1978). Psychological research as the phenomenologist views it. In Valle RS, King M, editors. Existential-phenomenological alternatives for psychology, 2(3), 48–71.
Hair, J., Black, W., Babin, B., Anderson, R., & Tatham, R. (2006). Multivariate Data Analysis (6th ed). Pearson Prentice Hall.
Meesad, A. (2020). Participation in Educational Institutions and Workplaces of Dual Vocational Education Administration in the Colleges under the Vocational Institute of Central Region 1. Journal of Humanities and Social Sciences Rajapruek University, 7(2),119.
Meesuk, U., Suwannarat, S. and Thammakittipop, W. (2018). Development of management models. Dual vocational education system Industrial technician branch in educational institutions under the Vocational Education Institute Central region. Dusit Thani College Journal, 11(3), 221-235.
Sangsawat, P., Jiraro, P. and Somsak Lila, S. (2018). Development of a vocational education management model. Bilateral system appropriate to type Industrial engineering using action research: Journal of Academic Development of King Chom Educational Techniques Klao Phra Nakhon Nuea, 30(105), 45–53.
Srichomphu, T. (2013). Development of a dual system vocational education administration model in educational institutions. Under the Office of the Vocational Education Commission, Phitsanulok [Doctoral dissertation, Naresuan University].