โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยทางพุทธจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชน

ผู้แต่ง

  • กัญกร คำพรรณ์ หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพุทธจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • สิริวัฒน์ ศรีเครือดง ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • วิชชุดา ฐิติโชติรัตนา ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ, ภูมิต้านทาน, อารมณ์, จิตใจ, พนักงานบริษัทเอกชน, พุทธจิตวิทยา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. พัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยทางพุทธจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชน 2. ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลที่ผู้วิจัยพัฒนากับข้อมูลเชิงประจักษ์ และ 3. วิเคราะห์เส้นทางอิทธิพลของปัจจัยทางพุทธจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชน เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี แบ่งเป็นระยะที่ 1 การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานบริษัทเอกชนระดับปฏิบัติการในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน คัดเลือกโดยการสุ่มแบบเจาะจง ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ .961 ระยะที่ 2 การวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนาและพุทธจิตวิทยา ผู้ประกอบการพนักงานระดับบริหารและปฏิบัติการ รวม 11 คน คัดเลือกโดยการสุ่มแบบเจาะจง ใช้การสนทนากลุ่มในการเก็บรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้และแนวทางในการนำโมเดลที่ผู้วิจัยพัฒนาไปใช้กับพนักงานบริษัทเอกชน วิเคราะห์ข้อมูลโดยสรุปความคิดเห็นและอธิบายเชิงบรรยาย

ผลการวิจัยพบว่า 1. โมเดลความความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยทางพุทธจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชนประกอบด้วย 6 ตัวแปร คือ การเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจ ทักษะการแก้ปัญหา การตระหนักรู้ในตน การพัฒนาจิตสำนึก การควบคุมตนเอง และ ทักษะทางสังคม 2) โมเดลที่ผู้วิจัยพัฒนาสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ มีค่า χ² = 43.68, df = 60, χ²/df = 0.73, p = 0.94, GFI = 0.99, AGFI = 0.96, SRMR = 0.01, RMSEA = 0.00 และ CFI = 1.00 โดยตัวแปรทั้งหมดร่วมกันทำนายการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชนได้ร้อยละ 93 และ 3) ตัวแปรทั้งหมดมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชน โดยการพัฒนาจิตสำนึกมีค่าอิทธิพลรวมมากที่สุด รองลงมา คือการควบคุมตนเอง การตระหนักรู้ในตนและทักษะทางสังคมตามลำดับ โดยทักษะการแก้ปัญหาเป็นตัวแปรส่งผ่าน ผลจากการสนทนากลุ่มพบว่าผู้ทรงคุณวุฒิทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า โมเดลที่ผู้วิจัยพัฒนาสามารถนำไปออกแบบเครื่องมือเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจให้กับพนักงานบริษัทเอกชนได้

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2563). เปลี่ยนร้านกลายเป็นดี RQ พลังสุขภาพจิต (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : บียอนด์พับลิสชิ่ง.

“________”. (2563). 10 วิธี “สร้างความสุข”โดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้น 12 กุมภาพันธ์ 2567, จาก https://sadathai.org/10-วิธี-สร้างความสุข-โดยกรมสุขภาพจิต

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมสุขภาพจิต. (2563). แผนการฟื้นฟูจิตใจในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) (Combat 4th Wave of COVID-19 Plan : C4). สืบค้น 4 มีนาคม 2567, จาก https://www.dmh.go.th/covid19/pnews/files/c4plan_21092563.pdf

ไทยพีบีเอส. (2567). คาดคนไทยป่วยสุขภาพจิต มากกว่าผู้รับการรักษา 5 เท่า. สืบค้น 4 มีนาคม 2567, จาก https://policywatch.thaipbs.or.th/article/life-35.

ประเวช ชุ่มเกสรกูลกิจ. (2564). อิทธิพลการทำงานจากบ้าน การสนับสนุนทางสังคมจากการทำงาน การสนับสนุนการทำงานเสมือนและความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและครอบครัวที่มีต่อสุขภาวะของพนักงาน. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 21(2), 126-139.

พนม เกตุมาน และ วินัดดา ปิยะศิลป์. (2564). Stress Management in Covid-19. สืบค้น 24 ตุลาคม 2567, จาก https://www.thaipediatrics.org/Media/media-20200512093441.pdf

พรรณวิภา บรรณเกียรติ. (2548). ช่วยได้อย่างไร เมื่อจิตใจตื่นตระหนก. มศว ชุมชน, 2(4), 3.

พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (2546). จากจิตวิทยา สู่จิตภาวนา. กรุงเทพฯ : ธรรมสภาและสถาบันบันลือธรรม.

พระพิเชฐ ปญฺญาธโร (โพธิ์ศิริ). (2565). การประยุกต์หลักพุทธธรรมในการสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจต่อโลกธรรม 8 (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระนครศรีอยุธยา.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

แม่ชีสุดา โรจนอุทัย, และ ธรรณปพร หงส์ทอง. (2563). การศึกษาความสอดคล้องเชาวน์อารมณ์ตามแนวคิดของแดเนี่ยล โกลแมนกับพระพุทธศาสนาเถรวาท. วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์, 4(2), 49-67.

ศศิพิมล แสงจันทร์ และ เกศกมล สุขเกษม. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดของประชากรเขตกรุงเทพมหานครในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 12(2), 218-230.

สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต. (2567). ผลสำรวจสุขภาวะทางจิตกลุ่มคนไทยวัยทำงาน. สืบค้น 4 มีนาคม 2567, จาก https://www.tims.psy.chula.ac.th/article.

อัญชฎา พูลทัศฐาน. (2564). ปปัญจธรรม : ปัญหาและแนวทางแก้ไขเชิงพุทธบูรณาการ. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(4), 171-190.

Grotberg, E. (1998). I AM, I HAVE, I CAN, What families worldwide taught us about resilience. Reaching Today’s Youth: The community Circle of Caring, 2(3), 12.

“________”. (1995). A guide to Promoting Resilience in Children: Strengthening the Human Spirit. The Hague, Natherlands: Bernard van Leer Foundation.

Hair et al. (2010). Multivariate data analysis: A Global Perspectives, Upper Saddle River. NJ: Pearson Education, International.

Pahwa, S., & Khan, N. (2022). “Factors Affecting Emotional Resilience in Adults”. Retrieved February 3, 2024, from http://doi.org/10.1177/0258042x211072935

Reckless, Walter C. (1950). The Crime Problem. Los Angeles, CA: Roxbury.

Southwick, S. M., Bonanno, G. A., Masten, A. S., Panter-Brick, C., & Yehuda, R. (2014). Resilience definitions, theory, and challengers: Interdisciplinary perspectives.European Journal of Psychotraumatology, 5(1), 238-253.

Wilhelm et al. (2020). Cognitive-Behavioral Therapy in the Digital Age: Presidential Address. Behavior therapy, 51(1), 1–14.

Wolin, S. J. and Wolin S. (1993). The Challenge of the troubled family. In the resilient self: How survivors of troubled families rise above adversity. New York: Villard Books.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-14

รูปแบบการอ้างอิง

คำพรรณ์ ก., ศรีเครือดง ส., & ฐิติโชติรัตนา ว. (2025). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยทางพุทธจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างภูมิต้านทานทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานบริษัทเอกชน. วารสารจิตวิทยาพุทธศาสตร์ประยุกต์เพื่อสังคม, 11(1), 139–164. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/human/article/view/287766