ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น การรับฟังอย่างลึกซึ้ง กับความมั่นคงในชีวิตสมรสตามหลักพุทธจิตวิทยา
คำสำคัญ:
ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น, การฟังอย่างลึกซึ้ง, ความมั่นคงในชีวิตสมรส, พุทธจิตวิทยาบทคัดย่อ
ความมั่นคงในชีวิตสมรส คือ การจัดการชีวิตสมรสให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ความขัดแย้งก่อให้เกิดความเครียด การสื่อสารเชิงลบและการไม่ลงรอยกันทางความคิดส่งผลให้เกิดการใช้อารมณ์ขณะสื่อสารและแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง การเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตสมรสตามหลักพุทธจิตวิทยาจำเป็นต้องประยุกต์ใช้หลักสมชีวิธรรม 4 หลักกัลยาณมิตรธรรม 7 และหลักพรหมวิหารธรรม ร่วมกับความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นและการรับฟังอย่างลึกซึ้ง เพื่อช่วยให้คู่สมรสรับรู้อารมณ์ ยอมรับความคิด เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายตามความเป็นจริงโดยไม่ยึดตามความคิดและความรู้สึกของตนและมีส่วนร่วมในความรู้สึกนั้น ผลของการเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตสมรสตามหลักพุทธจิตวิทยาจะทำให้คู่สมรสมีความรักแบบเมตตากรุณาต่อกัน ปรองดอง ประนีประนอม สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตสมรสที่ดี นำมาซึ่งความมั่นคงในชีวิตสมรส
References
กรรณิการ์ พันทอง. (2550). การศึกษาและพัฒนาความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของนักเรียนวัยรุ่น (ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ : กรุงเทพฯ.
งามตา วนินทานนท์. (2544). การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุของคุณภาพชีวิตสมรสในครอบครัวไทย. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 7(1), 79-110.
ธานินทร์ แสนทวีสุข. (2564). การรับฟังอย่างลึกซึ้ง : ตัวช่วยยามที่ต้องจัดการชีวิต. วารสารวิชาการสถาบันพัฒนาศักยภาพกำลังคน เขตพัฒนาพิเศษตะวันออก, 1(2), 45-59.
ธิรดา สุวัณณะศรี, ครรชิต แสนอุบล, อุทัยวรรณ สารพัฒนะ, และเพ็ญนภา กุลนภาดล. (2560). การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุความสุขในชีวิตสมรส ในเขตกรุงเทพมหานคร. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 10(2), 2662-2676.
ธีรพัฒน์ วงศ์คุ้มสิน. (2564). การพัฒนาความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของนิสิตหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยโปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษศาสตร์, 47(1), 75-98.
ธีระธรรม ทองโมถ่าย. (2562). รูปแบบการเยียวยาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจตามแนวพุทธจิตวิทยาของสตรีที่ผิดหวังในความรัก (ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย : พระนครศรีอยุธยา.
ปวีณภัศร์ มิ่งขวัญธนรัชต์. (2561). ผลการปรึกษาคู่สมรสทฤษฎีกลยุทธ์ต่อความมั่นคงในชีวิตสมรส (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา : ชลบุรี.
พระครูปริยัติธรรมวงศ์ (สุพล แสนพงษ์). (2557). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา จิตวิทยาพระไตรปิฏก (Psychology in Tipitaka). ขอนแก่น : คลังนานาวิทยา.
พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต). (2536). ความรัก จากวาเลนไทน์ สู่ความเป็นไทย. กรุงเทพฯ: พิมพ์สวย.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2555). คู่สร้างคู่สม ชีวิตคู่ในอุดมคติ (พิมพ์ครั้งที่ 28). กรุงเทพฯ: พิมพ์เผยแพร่โดยนายธวัชชัยและนางสาววันทนา.
พระมหาโสภณ วิจิตฺตธมฺโม และพนัทเทพ ณ นคร. (2560). พุทธจิตวิทยากับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ตามหลักสติปัฏฐาน 4. วารสารพุทธจิตวิทยา, 2(2), 59-72.
พสุ เดชะรินทร์. (2560). พฤติกรรมของคนกับสื่อสังคมออนไลน์. สืบค้น 2 กรกฎาคม 2564, จาก https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/641565
ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์, นพ. (2552). จิตวิทยาแนวพุทธ. สืบค้น 8 กันยายน 2564, จาก http:// medinfo2.psu.ac.th/cancer/db/news_ca.php?newsID=132&typeID=22&form=9
รพีพงค์ ยังวราสวัสดิ์. (2559). รูปแบบการให้คำปรึกษาครอบครัวแบบบูรณาการเพื่อเสริมสร้างความสำเร็จในชีวิตสมรสของคู่สมรส. วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 10(1), 130-145.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2542). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: นานมีบุคส์พับลิเคชันส์.
วนิดา ผาระนัด. (2558). ทฤษฎีตัวยู (Theory U). วารสารวิจัยเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 2(4), 29-35.
วลัยรัตน์ วรรณโพธิ์. (2545). ผลการใช้กิจกรรมฝึกความรู้สึกไวที่มีต่อการร่วมรู้สึกของเด็กวัยเริ่มรุ่น. (ปริญญานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ.
วิธาน ฐานะวุฑฒ์. (2009). ทฤษฎีที่จะทำให้ชีวิตชัดเจน. สืบค้น 14 กันยายน 2564, จาก https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=officer-pam&month=2-2010&date=27&group=13&gblog=1
ศุภวดี บุญญวงศ์. (2548). ผลกระทบจากการหย่า : บาดแผลที่ต้องเยียวยา. วารสารศึกษาศาสตร์, 5(1), 79-91.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2561). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม (พิมพ์ครั้งที่ 41). กรุงเทพฯ: ผลิธัมม์.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2561). พุทธธรรม ฉบับเดิม (พิมพ์ครั้งที่ 36). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา.
สุมัทนา สินสวัสดิ์ และพนมพร พุ่มจันทร์. (2557). ครอบครัว: การจัดการความขัดแย้งของคู่สมรสเพื่อการครองรักอย่างยั่งยืน. วารสารสังคมศ่าสตร์และมนุษยศาสตร์, 40(2), 184-195.
สุวภา บุญอุไร และคณะ. (2561). การพัฒนามาตรวัดความเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นของเด็กปฐมวัยในจังหวัดชลบุรี. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 29(3), 55-65.
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2551). การสมรส (29 กันยายน 2551). สืบค้น 19 เมษายน 2564, จาก http://legacy.orst.go.th/?knowledges91
เทวิกา ประดิษฐบาทุกา. (2557). เรื่องราวของความรัก. สืบค้น 2 เมษายน 2564, จาก https://www.gotoknow.org/posts/561277
โสฬส ศิริไสย์. (2548). วิธีการสนทนาแบบมนุษย์สัมผัสมนุษย์และการเปลี่ยนวิธีคิดด้วยการฟังอย่างลึกซึ้ง. นครปฐม: สำนักงานทรานส์ทีม เครือข่ายการวิจัยบูรณาการลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง คณะสิ่งแวดล้อมและ ทรัพยาการศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
อุมาพร ตรังคสมบัติ. (2545). จิตวิทยาชีวิตคู่และการบำบัดคู่สมรส. กรุงเทพฯ: ศูนย์วิจัยและพัฒนาครอบครัว.
Arellano, C.M., & Markman, H.J. (1995). The managing affect and difference scale (MADS) : A self-report measure assessing conflict management in couples. Journal of Family Psychology, 9(3), 319-334.
Egan, Gerard. (1986). The Skilled Help : A Systematic Approach to Effective Helping. 3rd. ed. United States of America: Brooks/Cole Publishing.
Eisenberg, N. (2000). Empathy and Sympathy. In M. Lewis & J. M. Haviland-Jones (Eds). Handbook of emotions. 2ed. New York: Guilford Press.
Hoffman, M.L. (2000). Empathy and Moral Development: Implications for Caring and Justice. New York: Cambridge University Press.
Lawis, R. A., & Spanier, G. B. (1979). Theorizing about the quality and stability of marriage. Contemporary Theories About the Family Research-Based Theories, 5(l1), 268-289.
Ludeman, Ruth S. (1968). Empathy: A Component of Therapeutic Nursing, Nursing Form, 1, 275-287.
Peter Lauster. (1978). The personality test. London: Pan Books.
Roger, C.R. (1951). Client-Centered Therapy: Its Current Practice, Implications, and Theory. Mifflin, Houghton: MI.
Satir, V., Banmen, J., Gerber, J., & Gomori, M. (1991). The Satir model: Family therapy and beyond. Palo Alto. CA: Science and Behavior Books.
Saul McLeod, Dr. (2022). Maslow's Hierarchy of Needs. Retrieved April 19, 2022, from https://www.simplypsychology.org/maslow.html
Sternberg Robert J., (2004). A Triangular Theory of Love. In Reis, H. T., Rusbult, C.E. (eds). Close Relationships. New York: Psychology Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
หมวดหมู่
License
Copyright (c) 2022 วารสาร มจร มนุษยศาสตร์ปริทรรศน์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.