กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจส่งบุตรหลานเข้าศึกษา โรงเรียนดนตรี กรณีศึกษาโรงเรียนดนตรีบาวซี่ (BOUNCY MUSIC SCHOOL) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
ปัจจัยส่วนประสมการตลาด, แผนกลยุทธ์ทางการตลาด, โรงเรียนดนตรีบาวซี่บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ปกครองในการจัดส่วนประสมทางการตลาดกรณีศึกษาของโรงเรียนดนตรีบาวซี่ของนักเรียนในอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาเหตุผลในการตัดสินใจเรียนดนตรีโรงเรียนดนตรีบาวซี่ของนักเรียนในอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 3) เพื่อนำเสนอแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของกรณีศึกษาโรงเรียนดนตรีบาวซี่ของนักเรียนในอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ งานวิจัยนี้เปนการวิจัยแบบผสมผสาน กลุมตัวอยาง ได้แก่ผู้ปกครองของนักเรียน จํานวน 108 คน ใชแบบสอบถามเปนเครื่องมือในการวิจัย สถิติในการวิเคราะห์ขอมูลเชิงพรรณนาในรูปแบบของค่าเฉลี่ย , ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่าร้อยละ การวิเคราะห์ SWOT
ผลการศึกษาพบว่า ข้อมูลปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองโรงเรียนดนตรี กรณีศึกษาโรงเรียนดนตรีบาวซี่ (BOUNCY MUSIC SCHOOL) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวิเคราะห์ในภาพรวมพบว่าปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญมากที่สุด จำนวน 3 ด้าน คือ ด้านกระบวนการการให้บริการ ด้านลักษณะทางกายภาพของโรงเรียนด้านสถานที่ตั้งของโรงเรียน รองลงมาผู้ปกครองให้ความสำคัญระดับมาก จำนวน 4 ด้านคือ ด้านบุคลากร/เจ้าหน้าที่ ด้านหลักสูตรของโรงเรียนและหลักสูตรทีเปิดสอน ด้านราคาค่าเรียนของโรงเรียนดนตรี และด้านการส่งเสริมการตลาด โดยใช้การวิเคราะห์ SWOT Analysis TOWS Matrix เครื่องมือสำหรับการสร้างกลยุทธ์ใหม่จากสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ปัจจุบัน Market Segmentation ส่วนแบ่งทางการตลาด Target Market Product Positioning ของโรงเรียนดนตรีดนตรีบาวซี่ (BOUNCY MUSIC SCHOOL) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เอกสารอ้างอิง
กิตติคุณ ทวนสุวรรณ ปฏิมา ประโยชน์อุดมกิจ และภูษิตย์ วงษ์เล็ก.(2560).ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี.วารสารวิชาการเซาธ์อีสท์บางกอก(สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์), 3(2)}57-67
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/SB_Journal/article/view/191533
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2560). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS. (พิมพ์ครั้งที่ 17). กรุงเทพฯ: บิสซิเนส อาร์แอนด์ดี.
ชณัฏฐ์ชฎา ชัยรัตนางค์กูล.(2566).โรงเรียนสอนดนตรีบาวซี่ Bouncy Music.
นันทน์เทพ คำสอน.(2562).สถานการณ์การแข่งขันอุตสาหกรรมดนตรี. สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน).
ปฐมาพร พีรวัฒนานนท์.(2567).ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดธุรกิจบริการทีสัมพันธ์กับการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนอรรถวิทย์ กรุงเทพมหานคร.วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม,25(45), 2024,27-41 https://so07.tci-thaijo.org/index.php/sujba/article/view/3036/3418
Cochran, W.G. (1977). Sampling Techniques(3rded.). NewYork: Wiley
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan.(1970). Determining Sample Size for Research Activities.Educational and Psychological Measurement. 30(3) : 607- 610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์