ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาการสื่อสารทางการตลาดของผู้ประกอบการสินค้า OTOP จังหวัดตาก
คำสำคัญ:
การสื่อสารทางการตลาด, สื่อออนไลน์, ผู้ประกอบการบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สื่อออนไลน์ของผู้ประกอบการสินค้าOTOP จังหวัดตาก 2) ศึกษาวัตถุประสงค์การใช้สื่อออนไลน์ของผู้ประกอบการสินค้าOTOP และ 3) ศึกษารูปแบบการใช้สื่อออนไลน์ของผู้ประกอบการสินค้า OTOP จังหวัดตาก เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธีกลุ่มตัวอย่าง มี 2 กลุ่ม คือ ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 3 คน และผู้ประกอบการสินค้า OTOP จังหวัดตาก จำนวน 20 คน วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่การวิเคราะห์เชิงตรรกะ ความถี่ รอยละ คาเฉลี่ย และค่าสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สื่อออนไลน์ของผู้ประกอบการสินค้า OTOP จังหวัดตากในมุมมองของตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ อันดับแรกคือความรู้พื้นฐานและการศึกษาค้นคว้าในการใช้เทคโนโลยีรองลงมาเนื้อหา ข้อความที่ใช้ในการสื่อสาร และความพร้อมของเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร ตามลำดับในมุมมองของผู้ประกอบการอันดับแรกคือ ยุคสมัย รองลงมาทักษะความชำนาญในการใช้เทคโนโลยี/สื่อออนไลน์ และประเภทสินค้าและกลุ่มลูกค้า ผู้ประกอบการเป็นกลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่ม อาหาร ผ้า/เครื่องแต่งกาย ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร และประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก ประกอบธุรกิจ 2-4 ปี เป็นอาชีพรอง
2. วัตถุประสงค์ในการใช้สื่อออนไลน์ อันดับแรกคือเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้ารองลงมาการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย/ลูกค้าได้ง่าย รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า ตอบข้อสักถามของลูกค้าตามลำดับ
3. รูปแบบการใช้สื่อออนไลน์อันดับแรกคือ Line รองลงมา Facebook และติ๊กตอก(TIKTOK) ตามลำดับ จำนวนการใช้สื่อออนไลน์ 6-10 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 1-3 ชั่วโมง และประเภทสื่อออนไลน์ที่ใช้แล้วส่งผลให้ยอดขายมากที่สุดคือ Line รองลงมา Facebook ติ๊กตอก(TIKTOK) ตามลำดับ
References
กิตติ สิริพัลลภ. (2543).การตลาดอิเล็กทรอนิกส์. วารสารบริหารธุรกิจ. 23(87),43-56.
กิติมา สุรสนธิ. 2541.ความรูทางการสื่อสาร. กรุงเทพฯ:โรงพิมพมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ธันยวิช วิเชียรพันธ์. (2557).สื่อดิจิทัลกับการดํารงชีวิต. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์วังอักษร.
มาลินี คำเครือ และ ธีระพันธ์ โชคอุดมชัย.(2562). กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าโอทอป ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของผู้บริโภคในจังหวัดกาญจนบุรี.วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า.6(1),1-8
ทรงศักดิ์ ภูสีอ่อน.(2551).การประยุกต์ใช้ SPSS วิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัย. พิมพ์ครั้งที่2. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.
ระนันท์ คำ นึงวุฒิ และอัญชนา กลิ่นเทียน.(2562).การพัฒนารูปแบบสื่อประชาสัมพันธ์และการตลาดออนไลน์ สำหรับสินค้า OTOP ในประเทศไทย กรณีศึกษาสินค้า OTOP จังหวัดนครนายก.วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม.7(2),32-45.
สวิตา อยู่สุขขี และอรคนางค์ นวลเจริญ.(2565).การสื่อสารการตลาดดิจิทัลเพื่อสร้างการรับรู้ของ OTOP นวัตวิถี บ้านพุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี.วารสารสุทธิปริทัศน์,36(2),83-98
สมคิด บางโม.(2555).การเป็นผู้ประกอบการ.กรุงเทพ ฯ : เอสเค ยุ๊คส์.
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตาก.(2565).โครงการส่งเสริมกระบวนการเครือข่ายองค์ความรู้ (Knowledge – Based OTOP : KBO) เชิงปฎิบัติการให้ความรู้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่.วันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2565.
บริษัท อาอุน ไทย แลบบอราทอรี่ส์ จำกัด .(2564).การตลาดออนไลน์.(ออนไลน์).สืบค้นจาก: https://aun-thai.co.th/blog/marketing-blog/online-marketing/ (16 กุมภาพันธ์ 2567).
ผู้จัดการออนไลน์.(2567).หนุนยกระดับ SMEs-สินค้า OTOP ในรูปแบบ E-commerce. (ออนไลน์).สืบค้นจาก: https://mgronline.com/politics/detail/9670000008142(20 กุมภาพันธ์ 2567).
สำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน.(2566): ภาพรวม OTOP.(ออนไลน์).สืบค้นจาก: https://otop.cdd.go.th/ (19 กุมภาพันธ์ 2567).
อรุณี อ่อนสวัสด์ิ. (2551).ระเบียบวิธีวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 3). มหาวิทยาลัยนเรศวร. พิษณุโลก.
Kotler, P., & Keller, K. L. (2016). Marketing management (15th ed.). England: Pearson Education.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์