แนวทางการปฏิบัติในการเขียนงานบริการวิชาการแก่ชุมชน
Guidelines For Academic Services Writing to The Community
คำสำคัญ:
บริการวิชาการ, การเรียนการสอนและการวิจัย, ชุมชน, การบูรณาการบทคัดย่อ
บทความวิชาการเรื่องนี้ เป็นบทความเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติในการเขียนงานบริการวิชาการแก่ชุมชน (service to the community) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในวิธีการปฏิบัติในการเขียนงานบริการแก่ชุมชน ซึ่งการบริการวิชาการแก่ชุมชน ถือเป็น 1ใน 5 พันธกิจหลักของคณาจารย์ในสถาบันการศึกษา ได้แก่ งานสอน ผลิตบัณฑิต ทำวิจัย ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และบริการวิขาการแก่ชุมชน เป็นต้น ดังนั้นการบริการวิชาแก่ชุมชน จึงมีความเชื่อมโยงกับการจัดการเรียนการสอนและการวิจัย ที่คณาจารย์ในสถาบันการศึกษาสามารถนำมาบูรณาการร่วมกันได้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนชุมชน เพื่อพร้อมให้คำปรึกษา แก้ปัญหาคุณภาพชีวิตของชุมชน และพัฒนาผู้ประกอบการมือใหม่สู่การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพโดยการให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน ที่คณาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการอยู่นั้น มีทั้งการให้บริการแบบให้เปล่า และ การให้บริการแบบมีรายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงการและหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ แต่จะอย่างไรก็ตามงานบริการวิชาการที่จัดทำขึ้น สามารถนำมาขอเป็นผลงานขอตำแหน่งทางวิชาการได้ ด้วยเหตุข้างต้น คณาจารย์ในสถาบันการศึกษา จึงมีความจำเป็นต้องทราบแนวทางการปฏิบัติในการเขียนงานบริการวิชาการแก่ชุมชน ซึ่งพบว่า องค์ประกอบของการเขียนงานบริการวิชาการชุมชน มี 11 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) กำหนดพื้นที่หน่วยงานหรือชุมชนที่จะบริการวิชาการ 2) สำรวจปัญหาและ ความต้องการของชุมชนที่ศึกษา 3) ประชุมชี้แจงผลการสำรวจความต้องการของชุมชนที่ศึกษา 4) ส่งข้อเสนอโครงการบริการวิชาการตามแบบฟอร์ม และส่งเข้าระบบของสถาบันการศึกษา 5) สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการบริการวิชาการระหว่างชุมชนตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6) สร้างแผนบริการวิชาการ 7) ดำเนินการตามแผนการบริการวิชาการเพื่อการพัฒนาชุมชนโดยผ่านการปรึกษา การอบรม การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการสร้างอาชีพ 8) ติดตามความก้าวหน้าของโครงการบริการวิชาการและรวบรวมข้อมูล 9) มีการประเมินผลจากการบริการวิชาการและผลกระทบที่ได้รับจากการบริการวิชาการ 10) จัดทำรายงานสรุปผลประเมิน และ 11) นำผลการประเมินมาปรับปรุงและเผยแพร่ต่อไป
References
คณะกรรมการจัดการความรู้. (2563). สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. หน้า 1-29
คู่มือระบบงานบริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคม สู่เกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษา. (2558). พิมพ์ครั้งที่ 1 โรงพิมพ์อักษรการพิมพ์. หน้า 1-54
จันทิมา องอาจ บรรเจิด เจริญเวช สนชัย ใจเย็น.(2561).การบริหารจัดการการบริการวิชาการแก่สังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี,15(1)
ชุติมา สัจจานันท์. (2558). การเขียนและเผยแพร่บทความวิจัยและบทความทางวิชาการจากงานวิจัย : มุมมองและการปฏิบัติของผู้เขียน และผู้ประเมิน. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำพงเพชร
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต.(2557). คู่มือการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต. หน้า 1-6
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ. (2565-2569). (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ. หน้า 1-64
สถาบันวิจัยและพัฒนา. (2564). คู่มือปฏิบัติการกระบวนการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราภัฎสวนสุนันทา. หน้า 1-64
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.(2557). รายงานประจำปีการบริการวิชาการชุมชน. หน้า 37-50
สถาบันวิจัยและพัฒนา.(2564). คู่มือการปฏิบัติงาน (work manual) กระบวนการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 5) หน้า 1-49
สำนักบริการวิชาการคู่มือโครงการการบริการวิชาการ (ชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยขอนแก่น). (2561). คู่มือการให้บริการวิชาการแก่สังคม 2561.หน้า 1-18
สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา.(2557). คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษา ภายในระดับอุดมศึกษา ฉบับปีการศึกษา 2557. กรุงเทพฯ : สำนักมาตรฐาน และคุณภาพอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์