รายงานพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต (MRDAE) โดยใช้สื่อประสมชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Development of the Model of Future Management Knowledge Using the Mixed Media (MRDAE) to Trail Ayutthaya’s History and to Develop Critical Thinking in Social Studies Subject of Matthayomsuksa 2 Students.

ผู้แต่ง

  • คงพันธ์ มีโพธิ์ รัฐประศาสนศาสตร์

คำสำคัญ:

ความผูกพันต่อองค์การ, คุณภาพชีวิตการทํางาน, องค์การบริหารส่วนตําบล

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ของการวิจัย  1)  เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสมชุด  ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2)  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่   2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสมชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3) เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสม ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน  และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสมชุด  ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม   โดยกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1   ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล 2 สามัคคีวัฒนา   อำเภอเมือง สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองยโสธร จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จากการจับสลากห้องเรียนระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง ปีการศึกษา 2563 ใช้เวลาในการทดลอง  20  ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสม ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้  2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ 40 ข้อ 4)  แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ 2 ข้อ   และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ 20 ข้อ การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่  1 การวิจัย (Research: R1) การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน(Analysis: A) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development: D1) การออกแบบและการพัฒนา (Design and Development: D&D) ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research: R2) การนำไปใช้ (Implementation: I) และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development: D2)การประเมินผล (Evaluation: E)การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย (x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (Dependent Samples t - test)

 

คงพันธ์ มีโพธิ์, [email protected] 089-5680269

 

 

ผลการวิจัยสรุปได้ว่า

            รูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต (MRDAE)  โดยใช้สื่อประสม ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์

อยุธยาที่ควรรู้   มีองค์ประกอบดังนี้  หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการสอน และการปะเมินผล  รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นกระบวนการสอนมี 5 ขั้นได้แก่ ขั้นที่ 1จูงใจเข้าสู่ความรู้ (motivation to knowledge) ขั้นที่ 2 นำสู่การค้นคว้า  (research) ขั้นที่ 3 ร่วมหารือสรุปประเด็น  (discussion to summarize)          

ขั้นที่ 4 ประยุกต์เป็นพร้อมนำไปใช้ (application to use) และขั้นที่ 5 ประเมินผลสิ่งที่เรียนรู้  ( evaluate ) โดยรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1  มีค่าเท่ากับ    81.02/84.53    ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้  80/80

  1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังทดลองใช้รูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสม ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1  พบว่าผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05 
  2. ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสม ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ กลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
  3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการความรู้แห่งอนาคต โดยใช้สื่อประสม ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์อยุธยาที่ควรรู้ กลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับพอใจมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-06-10

How to Cite