ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
The Factors Affecting Waste Management in Bueng Yitho Municipality, Thanyaburi District, Pathum Thani Province.
คำสำคัญ:
ปัจจัยที่ส่งผล, การบริหารจัดการขยะ, เทศบาลเมืองบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ 2) ศึกษาระดับการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ 3) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 4) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะกับการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ และ 5) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เทศบาลเมืองบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จาก 4 หมู่บ้าน รวมจำนวนทั้งสิ้น 32,321 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการของทาโร่ ยามาเน่ ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 395 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (Accidental Random Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบค่าเอฟ การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
- ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็น เพศชาย มากที่สุด จำนวน 199 คน คิดเป็นร้อยละ 50.4 รองลงมา เป็นเพศหญิง จำนวน 196 คน คิดเป็นร้อยละ 49.6 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 21-40 มากที่สุด จำนวน 256 คน คิดเป็นร้อยละ 64.8 มีการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) อนุปริญญา หรือ ปริญญาตรี มากที่สุด จำนวน 209 คน คิดเป็นร้อยละ 52.9 มีอาชีพเป็นข้าราชการ/พนักงาน/ลูกจ้างของรัฐ มากที่สุด จำนวน 105 คิดเป็นร้อยละ 26.6 และมีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทมากที่สุด จำนวน 175 คน คิดเป็นร้อยละ 44.3
- ระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะในภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( : 3.44, S.D. = .16) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อันดับสูงสุด ได้แก่ ระบบการจัดการ ( : 3.51, S.D. = .34) รองลงมา ความร่วมมือของประชาชน ( : 3.49, S.D. = .30) คุณภาพของบุคลากร ( : 3.41, S.D. = .23) และการรณรงค์และให้ความรู้ ( : 3.35, S.D. = .34) ตามลำดับ
- ระดับการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบว่าในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ( : 3.40, S.D. = .12) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อันดับสูงสุด ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพและการนำกลับมาใช้ใหม่ ( : 3.68, S.D. = .33) รองลงมา การเก็บกักรวบรวม ( : 3.52, S.D. = .27) การเก็บขน ( : 3.25, S.D. = .23) และการกำจัดขั้นสุดท้าย ( : 3.14, S.D. = .27) ตามลำดับ
- ผลการเปรียบเทียบการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองยี่โถ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้ที่ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อระดับการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะกับการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ในภาพรวมมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีค่าสหสัมพันธ์ตั้งแต่ .099- .471ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันสูงสุดได้แก่ คุณภาพของบุคลากร กับการรณรงค์และให้ความรู้ (rxy = .471**)
- ผลการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า ตัวแปรทั้ง 4 ตัวคือ ความร่วมมือของประชาชน (X1) ระบบการจัดการ (X2) คุณภาพของบุคลากร (X3) และ การรณรงค์ให้ความรู้ (X4) มีผลต่อการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ .360 สามารถพยากรณ์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการขยะของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ได้ร้อยละ 13 โดยเขียนสมการพยากรณ์ในรูปแบบคะแนนมาตรฐานประกอบไปด้วย ZY = .308 (X3) + .090 (X4) + .156 (X1) + -.056 (X2)
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์