ปัจจัยด้านการบริหารจัดการที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการบริการสาธารณะแนวใหม่ของเทศบาลตำบลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง 1
Administrative Factors Related to the Effectiveness of New Public Service of Subdistrict Municipalities in the Lower North-Eastern Provincial Cluster 1
คำสำคัญ:
ปัจจัยด้านการบริหารจัดการ, ประสิทธิผลขององค์การ, การบริการสาธารณะแนวใหม่บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลการบริการสาธารณะแนวใหม่ของเทศบาลตำบลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 และเพื่อศึกษาปัจจัยด้านการบริหารจัดการที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการบริการสาธารณะแนวใหม่ของเทศบาลตำบลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 สมมติฐานในการวิจัยคือ ปัจจัยด้านการบริหารจัดการมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการบริการสาธารณะแนวใหม่ ประชากรในการวิจัยคือ เทศบาลตำบลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ตามการแบ่งกลุ่มจังหวัดของสำนักบริหารยุทธศาสตร์ กระทรวงมหาดไทย มีจำนวนเทศบาลตำบล 206 แห่ง ตัวแทนประชากรผู้วิจัยเจาะจงศึกษาจากกลุ่มผู้บริหารเทศบาลตำบลซึ่งมีบทบาทการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กร โดยแบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายการเมือง และฝ่ายข้าราชการประจำ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามแนวคิดของ ทาโร ยามาเน่ ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 335 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานวิเคราะห์โดยหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (pearson product-moment Correlation coefficient) แล้วเทียบกับเกณฑ์
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิผลการบริการสาธารณ ะแนวใหม่ของเทศบาลตำ บลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการให้บริการมากกว่าการกำกับดูแล ด้านการบริการรับใช้พลเมือง ด้านการให้คุณค่ากับคนมากกว่าผลิตภาพ ด้านเน้นคุณค่าความเป็นพลเมือง ด้านการคิดเชิงยุทธศาสตร์และปฏิบัติแบบประชาธิปไตย ด้านการค้นหาผลประโยชน์สาธารณะ และด้านตระหนักในความสามารถรับผิดชอบ ตามลำดับ
2. การบริหารจัดการของเทศบาลตำบลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับค่าคะแนนเฉลี่ยเป็นรายด้านจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการมีส่วนร่วมด้านวัฒนธรรมองค์การ ด้านกลยุทธ์องค์การ ด้านกระบวนการและเทคโนโลยี ด้านภาวะผู้นำ ด้านทรัพยากรทางการบริหาร ด้านโครงสร้างองค์การ ด้านสมรรถนะทางการบริหาร และด้านทรัพยากรมนุษย์ ตามลำดับ
3. ปัจจัยด้านการบริหารจัดการที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการบริการสาธารณะแนวใหม่ของเทศบาลตำบลในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านทรัพยากรมนุษย์ด้านวัฒนธรรมองค์กร ด้านทรัพยากรการบริหาร และด้านการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
เอกสารอ้างอิง
กมลลักษณ์ ยินดียม. (2556, November-April). ประสิทธิผลกำรบริหำรองค์กำรตำมหลักกำร บริหำรจัดกำรที่ดี: กรณีศึกษำ เทศบำลตำบลในพื้นที่บริเวณชำยแดนไทย-กัมพูชำ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, Vol. 4 No. 1. หน้ำ 106.
ถวิลวดี บุรีกุล. (2552). การมีส่วนร่วม แนวคิด ทฤษฏีและกระบวนการ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : สถำบันพระปกเกล้ำ.
ธณัฐพล ชอุ่ม. (2558). ตัวแบบการบริหารจัดการที่มีผลต่อประสิทธิผลของเทศบาลตาบลในเขตภาคกลางของประเทศไทย. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญำดุษฎีบัณฑิต สำขำวิชำกำรจัดกำรมหำวิทยำลัยสยำม.
ธนกฤต โพธิ์เงิน. (2557, พฤษภำคม – สิงหำคม). ปัจจัยด้ำนกำรบริหำรจัดกำรตำมหลักธรรมำภิบำลที่มีผลต่อประสิทธิผลกำรบริหำรงำนขององค์กำรบริหำรส่วนตำบลในเขตจังหวัดปทุมธำนี. วารสาร วิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 6(2): 320-328.
ธนำภัสสร์ แสงเกียรติยุทธ. (2554). ประสิทธิผลการบริหารจัดการองค์การด้านการจัดการขยะมูลฝอยกรณีศึกษา เทศบาลตาบลในพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง. ดุษฎีนิพนธ์บัณฑิต, มหำวิทยำลัยปทุมธำนี.
นรำธิป ศรีรำม, กิตติพงษ์ เกียรติวัชรชัย และ ชลัช ชรัญญ์ชัย. (2556). การสังเคราะห์แนวคิดการ บริการสาธารณะแนวใหม่. นนทบุรี : มหำวิทยำลัยสุโขทัยธรรมำธิรำช. 46-52.
นันทวัฒน์ บรมำนันท์. (2547). หลักกฎหมายปกครองเกี่ยวกับบริการสาธารณะ. พิมพค์รั้งที่3. กรุงเทพมหำนคร: สำนักพิมพ์วิญญูชน.
พิทยำ บวรวัฒนำ. (2552). ทฤษฎีองค์กรสาธารณะ. กรุงเทพฯ : ศักดิ์โสภำ.
วิษณุ เครืองำม. (2521). กาหมายรัฐธรรมนูญ. กรุงเทพฯ: ธีรำนุสรณ์กำรพิมพ์.
สมคิด เลิศไพฑูรย์. (2547). กฎหมายการปกครองท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรี และรำชกิจจำนุเบกษำ.
สมบูรณ์ ชมพูผุดผ่อง. (2556). การบริการสาธารณะแนวใหม่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วิทยำนิพนธ์รัฐประศำสนศำสตรมหำบัณฑิต มหำวิทยำลัยรำชภัฏเพชรบุรี.
สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. สำนักกำรพิมพ์ สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร. หน้ำ 17.
เสำวลักษณ์ สุขวิรัช. (2549). “ทางสองแพร่งของจริยธรรมการบริหาร”. เอกสำรกำรประชุมวิชำกำรรัฐศำสตร์และรัฐประศำสนศำสตร์แห่งชำติ ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สำนักงำนคณะกรรมกำรวิจัยแห่งชำติ.
อธิวัฒน์ อุดมก้ำนตง และ อลงกรณ์ อรรคแสง (2561, กันยำยน – ธันวำคม). ควำมต้องกำรบริกำรสำธำรณะของประชำชนที่มีต่อองค์กำรบริหำรส่วนตำบล : ข้อเสนอกำรกระจำยอำนำจจำกล่ำงขึ้นบน. วารสารการเมืองการปกครอง, ปีที่ 8 ฉบับที่ 3. : 79-97
อนุชำ เทียมพูล. (2554). การบริหารการพัฒนาที่มีผลต่อคุณภาพการ ให้บริการสาธารณะ: กรณีศึกษา เทศบาลตาบลในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา. ปริญญำนิพนธ์ปริญญำดุษฎีบัณฑิต. ปทุมธำนี: มหำวิทยำลัยปทุมธำนี.
อลงกต วรกี. (2561). การสังเคราะห์แนวคิดการบริการสาธารณะแนวใหม่ที่เหมาะสมกับสังคมไทย. กรุงเทพฯ: วิทยำลัยทองสุข.
Barney, J. (1991) Firm Resources and Sustained Competitive Advantage. Journal of Management, 17, 99-120.
Denhardt, J.V., & Denhardt, R.B. (2000). The new public service: Serving rather than steering. Public Administration Review, 60(6), 549- 559.
Denhardt, J.V., & Denhardt, R.B. (2007). The new public service: Serving, not steering. (Expanded Edition. Armonk). New York : M.E. Sharpe.
Ivancevich, John M., and Michael T. Matteson. (2001). Organizational Behavior and Management. (5th ed.). Boston: Mc Graw-Hill.
Mohan, D.J. (1989). Climato-diatomological results from Baltal-Lower Karewa beds, Kashmir, India. Current Science. 58(6): 294-300.
Taro Yamane. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd Ed. New York. Harper and Row. Publications.
Xu, Y., Ribeiro-Soriano, D.E. and Gonzalez-Garcia, J. (2015). Crowdsourcing, innovation and firm performance. Management Decision, Vol. 53 No. 6, pp. 1158-1169.
Zhang, S. B. (2003). An organizational cultural analysis of the effectiveness of Chinese Construction. (Unpublished PhD Thesis). Hong Kong University, Hong Kong.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์