แนวทางการพัฒนาการจัดเก็บและการบริหารข้อมูลดิจิทัลของโซ่อุปทาน วิสาหกิจการท่องเที่ยวโดยชุมชนแบบมีส่วนร่วม จังหวัดพัทลุง
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความพร้อมการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล 2) เพื่อจัดกลุ่มชุมชนในการ
จัดเก็บข้อมูลดิจิทัล และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาการจัดเก็บและบริหารข้อมูลดิจิทัลของโซ่อุปทานวิสาหกิจการท่องเที่ยว โดยชุมชนแบบมีส่วนร่วม จังหวัดพัทลุง เป็นเทคนิคการวิจัยแบบผสม กลุ่มตัวอย่างคือ กลุ่มวิสาหกิจการท่องเที่ยว โดยชุมชนแบบมีส่วนรวมในจังหวัดพัทลุง ทั้งหมด จํานวน 52 ชุมชน เครื่องมือที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตรส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ความพร้อมของการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลของวิสาหกิจการท่องเที่ยวมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย= 2.90) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า วิสาหกิจการท่องเที่ยวมีความพร้อมสูงสุด
ด้านอุปกรณ์และโครงข่ายค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.50) และชุมชนมีความพร้อมน้อยที่สุดในด้านสื่อเผยแพร่ข้อมูลมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 2.54) ตามลําดับ และ 2) การจัดกลุ่มจัดเก็บข้อมูลของประเภทชุมชนท่องเที่ยว พบว่าชุมชนท่องเที่ยวในจังหวัดพัทลุงจัดอยู่ในประเภท D มากที่สุด จํานวน 25 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 48.08 รองลงมาอยู่ในประเภท C จํานวน 18 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 34.62 อยูในประเภท B จํานวน 8 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 15.38 และในลําดับสุดท้ายประเภท A น้อยที่สุด จํานวน 1 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 1.92 ซึ่งควรดําเนินการพัฒนาสื่อดิจิทัลเพื่อการรองรับนักท่องเที่ยวควรเป็นชุมชนประเภท B และ A รวมจํานวน 9 ชุมชน เนื่องจากมีความพร้อมในด้านศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้านความ
พร้อมของชุมชนและสิ่งอํานวยความสะดวก และด้านสินค้าและบริการ มากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป 3) แนวทางการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลที่เหมาะสมควรดําเนินการให้มีฐานข้อมูลดิจิทัลกลางของจังหวัดเพื่อลดความซํ้าซ้อนและต้องอัพเดทอยู่อย่างสมํ่าเสมอในการเผยแพร่ลงในสื่อออนไลน์ต่างๆ ให้ตรงกับรูปแบบการรับรู้จากสื่อของนักท่องเที่ยว
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. ค้นเมื่อ
มกราคม 2563. จาก http://www.mict.go.th
เกียรติสุดา ศรีสุข. (2552). ระเบียบวิธีวิจัย. เชียงใหม่: โรงพิมพ์ครองช่าง.
จิรัชฌา วิเชียรปัญญา. (2557). การจัดการเนื้อหาสินทรัพย์ดิจิทัล: ความทาทายขององค์กรในยุคสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้. รังสิตสารสนเทศ, 20(2), 96-110.
ณัฐวี อุตกฤษฎ์. (2550). แนวทางการพัฒนาการจัดเก็บ การบริหารข้อมูลสารสนเทศของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศ, 3(6), 47-54.
ภาพิมล ชัย. การบริหารงานด้านเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล ตามแนวนโยบาย Thailand 4.0. รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต. มหาวิทยาลัยรามคําแหง.
ราชกิจจานุเบกษา. (2562). พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผานระบบดิจิทัล. ค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2563. จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/067/T_0057.PDF
วชิรวัชร งามละม่อม. (ม.ป.ป.). แนวคิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาในชุมชน. สถาบัน TDRM: www.trdm.co.th. ค้นเมื่อ 14 พฤษภาคม 2563. จาก http://file.siam2web.com/trdm/article/2013318_75567.pdf
ศรีปริญญา ธูปกระจ่าง. (2546). การพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในต่างประเทศและในบริบทของไทย. คําบรรยายในการอบรมเชิงปฏิบัติการ การวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของวิสาหกิจชุมชน : ภาคเหนือตอนบน ณ ศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร. คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพัทลุง. (2563). สรุปผลการจัดประเภทชุมชนท่องเที่ยว.). ค้นเมื่อ 16 มีนาคม 2563 จาก https://phatthalung.cdd.go.th/
สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง. (2562). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง ปี พ.ศ. 2560-2564 (ฉบับทบทวน สําหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2563). ค็นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2563. จาก http:// www.industry.go.th/phatthalung
อัญชลี หิรัญแพทย์. (2559). กระบวนการการจัดการขนส่งผลิตภัณฑ์สีย้อมของบริษัท เอบีซี จํากัด: กรณีศึกษาขั้นตอนการดําเนินการขนส่ง. วารสารวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน, 2(2), 87-99.
Cronbach, L. J. (1951). Coefficient Alpha and the Internal Structure of Tests. Psychometrika, 16(3), 297-334.
Likert, R. A. (1961). New Patterns of Management. McGraw-Hill.
Sooksai, T. (2019). Factors of Advantage Creation for Competitive Electrical and Electronics Industries in Central Region of Thailand. IEEE Xplore Digital Library. (Online). from https://ieeexplore.ieee.org /document/8612352