การพัฒนารูปแบบการบริหารการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทาง ในจังหวัดบุรีรัมย์
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการปฏิบัติในการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์ 2) พัฒนารูปแบบบริหารการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์ และ3) ประเมินรูปแบบบริหารการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์ วิจัยแบบผสมผสาน เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง 771 คน ใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เชิงคุณภาพ สัมภาษณ์กลุ่มโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม(AIC) จำนวน 55 คน และสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 11 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วย การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ระดับการปฏิบัติการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ในระดับมาก รูปแบบบริหารการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์ที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบดังนี้ 1) ก่อนส่งต่อสื่อสารข้อมูลโดยใช้เอสบาร์ (SBAR) ประเมินผู้ป่วยใช้หลักการประเมินทางเดินหายใจ ลักษณะการหายใจ ระบบไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจ และการประเมินระดับความรู้สึกตัว (ABCD) 2) ระหว่างส่งต่อประเมินอาการผู้ป่วยตามสัญญาณเตือนก่อนที่ผู้ป่วยจะเกิดภาวะวิกฤต (MEWS) และ 3) ส่งมอบผู้ป่วยที่โรงพยาบาลต้นทางโดยใช้ SBAR ปัจจัยที่ส่งผลให้ประสบผลสำเร็จประกอบด้วย 1) การทำงานเป็นทีม 2) การสื่อสาร 3) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 4) การมีส่วนร่วม และ5) การมีเป้าหมายเดียวกัน ประเมินรูปแบบบริหารการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์ ด้านความถูกต้อง ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมาก
Downloads
Article Details
รูปแบบการอ้างอิง
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)
หมวดหมู่
Copyright & License
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กงทอง ไพศาล. (2560). การพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเครือข่ายสุขภาพอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี, 25(1), 11.
กองบริหารการสาธารณสุข. (2562). คู่มือแนวทางการพัฒนาระบบรับส่งต่อผู้ป่วย. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.
การแพทย์ทางไกล. (2565). รายงานประจำปี 2565. ศูนย์ส่งต่อโรงพยาบาลบุรีรัมย์.
จำเนียร จวงตระกูล, & นวัสนันท์ วงศ์ประสิทธิ์. (2562). การวิเคราะห์เนื้อหาในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ. สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2(2), 7.
จุรีรัตน์ ดวงจันทร์. (2563). การสื่อสารเพื่อส่งต่อข้อมูลทางการพยาบาลด้วยเทคนิคเอสบาร์. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 21(41), 94.
ชนิดา เพ็ชรศรี. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อภาวะเหนื่อยล้าในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา, 8(3), 1.
ชิรวัฒน์ นิจเนตร. (2560). การวิจัยพัฒนารูปแบบทางสังคมศาสตร์และการศึกษา. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, 4(2), 71.
ทรงศักดิ์ ภูสีอ่อน. (2561). การประยุกต์ใช้ SPSS วิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัย. ตักสิลาการพิมพ์.
ประนอม ผาวันดี. (2567). ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานเป็นทีมกับความผูกพันต่อองค์กรของข้าราชการครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 2. วารสาร มจร.หริภุญชัยปริทรรศน์, 8(4), 182–183.
ปราโมทย์ ถ่างกระโทก. (2561). ระบบส่งต่อผู้ป่วย: กระบวนการสำคัญในการจัดการบริการสุขภาพ. วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 25(3), 109–118.
ปรีชา แหวนหล่อ, บุญช่วย ศรีธรรมศักดิ์, & สุรีย์พันธุ์ วรพงศธร. (2560). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยทางอินเทอร์เน็ต จังหวัดศรีสะเกษ. วชิรเวชสารและวารสารเวชศาสตร์เขตเมือง, 61(3), 215.
พนิดา จันทรัตน์, และคณะ. (2566). การพัฒนารูปแบบการเฝ้าระวังสัญญาณเตือนเข้าสู่ภาวะวิกฤตในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง โรงพยาบาลสงขลา. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 32(1), 114.
พรพิไล นิยมถิ่น, อารี ชีวเกษมสุข, และ วันเพ็ญ ภิญโญภาสกุล. (2560). การพัฒนารูปแบบการสื่อสารในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จังหวัดเลย. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(1), 46.
พัฒนา พรหมณี, ศรีสุรางค์ เอี่ยมสะอาด, & ปณิธาน กระสังข์. (2560). แนวคิดการสร้างและพัฒนารูปแบบเพื่อใช้ในการดำเนินงานด้านการสาธารณสุขสำหรับนักสาธารณสุข. วารสารสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, 6(2), 128.
พิมลพรรณ เพชรสมบัติ. (2564). ผู้บริหารกับการทำงานเป็นทีม. วารสารคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 4(1), 1.
รัชนี ศิริวัฒน์, และคณะ. (2562). การพัฒนารูปแบบการสื่อสารทางการพยาบาลแบบไร้รอยต่อโดยใช้เทคนิค SBAR ในระยะเปลี่ยนผ่านการดูแลงานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 31(1), 66.
ศศิธร ประสารสืบ, & พิกุล อนุชิตเกรียงไกร. (2567, 15 มีนาคม). การพัฒนารูปแบบการใช้ MEWS score เฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงและสัญญาณเตือนของผู้ป่วยงานอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร. สสจ.ยโสธร. https://www.shorturl.asia/zyqsu
ศูนย์ส่งต่อ. (2565). รายงานประจำปี 2565. โรงพยาบาลบุรีรัมย์.
โศรดา ชุมนุ้ย. (2566). ผลการพัฒนาระบบ Modified Early Warning Scores (MEWS) เพื่อเฝ้าระวังและจัดการอาการผู้ป่วยก่อนเข้าสู่ภาวะวิกฤต งานการพยาบาลผู้ป่วยในโรงพยาบาลร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อม, 8(4), 221.
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2557). การปฏิบัติการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินระหว่างสถานพยาบาล (พิมพ์ครั้งที่ 1). อัลทิเมทพริ้นติ้งจำกัด.
สุวรรณา นาที. (2560). การศึกษาผลการใช้แนวปฏิบัติสำหรับพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุที่มีภาวะคุกคามชีวิตขณะส่งต่อในรถพยาบาลเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอุดรธานี. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี, 25(1), 50.
Keeves, J. P. (1997). Educational research, methodology and measurement: An international handbook. Pergamon Press.
Tang, W. G., & Vandenberghe, C. (2021). Role overload and work performance: The role of psychological strain and leader-member exchange. Frontiers in Psychology, 12, Article 691207. https://doi.org/10.3389/fpsyg.2021.691207
Yamane, T. (1967). Statistics: An introductory analysis (2nd ed.). Harper and Row.