แนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280751คำสำคัญ:
แนวทาง, การพัฒนา, สมรรถนะดิจิทัลของครู, สถานศึกษาอาชีวศึกษาบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: สมรรถนะดิจิทัลของครูเป็นเรื่องที่สำคัญในยุคปัจจุบัน ทั้งใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการการทำงานเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกและสอดคล้องกับการพัฒนาชาติตามแนวทางนโยบายการจัดการศึกษา การค้นคว้าแบบอิสระนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่มีการปฏิบัติที่ดี และ 3) เพื่อจัดทำและตรวจสอบแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่
ระเบียบวิธีการวิจัย: การศึกษาเรื่อง แนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ศึกษาได้แบ่งวิธีการศึกษาตามวัตถุประสงค์ ออกเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยการใช้แบบสอบถามกับผู้บริหาร คณะครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ ระยะที่ 2 การศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่มีการปฏิบัติที่ดี โดยการใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structured Interview) โดยประเด็นการสัมภาษณ์ เป็นผลที่ได้จากการศึกษาในระยะที่ 1 สร้างแบบสัมภาษณ์แล้วนำไปสัมภาษณ์ ผู้บริหาร ครู ในสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่มีการปฏิบัติที่ดี 3 สถานศึกษา สถานศึกษาละ 3 คน รวม 9 คน ระยะที่ 3 การจัดทำและตรวจสอบแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ แบ่งการดำเนินการในระยะนี้ ออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การจัดทำแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) เพื่อสร้างแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยประยุกต์ใช้ตามองค์ประกอบของแนวทาง ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการพัฒนา 4) เงื่อนไขความสำเร็จ โดยผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่ม จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 2 คน หัวหน้าแผนกวิชาหรือครู จำนวน 2 คน ศึกษานิเทศก์ จำนวน 3 คน รวม 7 คน ขั้นตอนที่ 2 การตรวจสอบแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ แบบตรวจสอบ ความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ ของแนวทาง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในการตรวจสอบ จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 2 คน หัวหน้างานบุคลากร 2 คน หัวหน้าแผนกวิชาหรือครู 3 คน รวม 7 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย: 1) การพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ สภาพปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อันดับแรก คือ การรายงานผลการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครู สภาพที่พึ่งประสงค์ โดยรวม อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อันดับแรก คือ การปรับปรุงแก้ไขการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครู ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (PNI) โดยรวมมีค่าเท่ากับ 0.39 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อันดับแรก คือ การดำเนินการติดตามประเมินผลสมรรถนะดิจิทัลของครู 2) การศึกษาความต้องการจำเป็นและศักยภาพสมรรถนะดิจิทัลของครู ต้องมีการดำเนินการอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง โดยใช้เครื่องมือที่มีความหลากหลายรูปแบบในการศึกษาเพื่อเก็บข้อมูลที่เหมาะสมและเพื่อการวาง สถานศึกษามีการจัดทำแผนการโครงการ แต่งตั้งคำสั่งคณะกรรมการเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อให้คำปรึกษาในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและแก้ปัญหาทางการทำงาน การดำเนินการติดตามประเมินผลสมรรถนะดิจิทัลของครูมีการกำหนดกระบวนการติดตาม มอบหน้าหน้าที่อย่างชัดเจน และประเมินผลที่เป็นระบบและเป็นประจำอย่างต่อเนื่องด้วยการประเมินจากทุกภาคส่วน การปรับปรุงแก้ไขการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูด้วยการวิเคราะห์จุดเด่น จุดที่ต้องพัฒนาของครูเพื่อการพัฒนาครูตรงตามศักยภาพและความสามารถและมีแผนสำรองในการแก้ไขปัญหาการรายงานผลการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครู ต้องมีการจัดทำรายงานในทุกภาคเรียนให้ผู้เกี่ยวข้องทราบด้วยการนำเสนอผลการพัฒนาทั้งในรูปแบบของการบรรยายและการประเมินเชิงปริมาณ 3) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการพัฒนา แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน และ 4) เงื่อนไขความสำเร็จ มีผลการตรวจสอบ ความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ระดับมากที่สุด และผ่านเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ทุกด้าน
สรุปผล: ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ คือการดำเนินการติดตามประเมินผลสมรรถนะดิจิทัลของครู อาจเนื่องมาจากสถานศึกษามีการดำเนินการและติดตามการพัฒนาสมรรถนะครูยังไม่เพียงพอ และมีการประเมินผลความก้าวหน้าตลอดจนการนิเทศติดตามครู ตามแผนการของสถานศึกษาที่ไม่ต่อเนื่องและเป็นปัจจุบันทันต่อการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงดิจิทัล แนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่มีผลการตรวจสอบด้านความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นได้ ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากแนวทางฯ มีความตรงกับวัตถุประสงค์ หลักการของทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูครอบคลุม ตามองค์ประกอบของแนวทางสามารถนำแนวทางปรับใช้ในการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
References
เกียรติสุดา ศรีสุข. (2561). ระเบียบวิธีวิจัย RESEARCH METHODOLOGY. เชียงใหม่: Kiatsudajgmailcom
ณัฐพล ปิ่นทองและคณะ. (2562). การสังเคราะห์องค์ประกอบและแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำครู ในยุคการศึกษา 4.0. การศึกษาค้นคว้าอิสระศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต (การศึกษา) .เชียงใหม่.การบริหารการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
บัญชาลักษณ์ ลือสวัสดิ์ จอมพงศ์ มงคลวนิช และ ปรัชญนันท์ นิลสุข. (2565). รูปแบบการพัฒนาครูอาชีวศึกษาด้านสมรรถนะดิจิทัล วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาครัฐสังกัดสถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต. 19 (1), 106-141.
ภัทราพร เยาวรัตน์. (2565). การศึกษาสมรรถนะและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูใน สถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1. การค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่. (2563). รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Assessment Report: SAR) ปีการศึกษา 2563. เชียงใหม่. ฝ่ายแผนงานและนโยบาย วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่.
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2564). แผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2563 – 2565. Retrieved from: https://www.moe.go.th.
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ (2564). รายงานการนิเทศติดตามโครงการดิจิทัลการเรียนการสอนของสถานศึกษาในอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2564. เชียงใหม่ : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2551). พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551. กรุงเทพฯ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2563). รายงานประจำปี 2563 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.กรุเทพฯ : แผนกวิชาการพิมพ์ วิทยาลัยเทคนิคมินบุรี.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2560). ทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและ บุคลากรภาครัฐเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล. Retrieved from: https://www.ocsc.go.th/
สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2561). กรอบสมรรถนะด้านดิจิทัลสำหรับพลเมืองไทย. กรุงเทพฯ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). สมรรถนะครูและแนวทางการพัฒนาครูในสังคมที่เปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟฟิค
สุกิจ อัครมหาเสนาวงศ์. (2565). แนวทางการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก. Journal of Modern Learning Development.
แสงเพ็ชร แสงจันทร์. (2561). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูอาชีวศึกษาในจังหวัดเชียงราย.วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
European Commission. (2004). Key competences for lifelong learning: A European reference framework directorate-general for education and culture. Retrieved from https://op.europa.eu/en/publication-detail/-/publication/5719a044-b659-46de-b58b-606bc5b084c1
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ