แนวทางการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2

ผู้แต่ง

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280700

คำสำคัญ:

ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ, การสร้างทีมงาน, การสร้างแรงจูงใจ, การมอบอำนาจ, การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: หลังจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สถาณการณ์ดังกล่าว ซึ่งทำให้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่หรือ (New Normal) การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตให้มีความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้เกิดความสุขในการปฏิบัติงาน แนวทางการเสริมพลังอำนาจ สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 จะส่งผลให้เกิดการดำเนินงานของโรงเรียนบรรลุเป้าหมายอย่างมีคุณภาพและประสิทธิผล การวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 2) เพื่อเสนอแนวทางการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2

ระเบียบวิธีการวิจัย: โดยเป็นการวิจัยแบบพรรณนา กลุ่มตัวอย่างได้แก่ผู้บริหารและครู จำนวน 271 คน กำหนดขนาดตัวอย่างด้วยตารางแครซี่และมอร์แกน และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ระยะที่ 1 เป็นการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอมถามที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.993 วิเคราะห์ข้อมูลสถิติ โดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และจัดอันดับความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสอบถามกึ่งโครงสร้าง และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาและนำเสนอโดยวิธีการพรรณนา

ผลการวิจัย: ผลการวิจัยพบว่า ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของ การเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2 สภาพปัจจุบันของการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ในภาพรวม โดยค่าเฉลี่ยระดับ  อยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และด้านที่ต่ำสุด คือ ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ สภาพที่พึงประสงค์ ของการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2  โดยค่าเฉลี่ยระดับสภาพที่พึงประสงค์การเสริมพลังอำนาจอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และด้านที่ต่ำสุด  คือ ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ ความต้องการจำเป็นของการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ภาพรวมพบว่า ค่า PNI Modified อยู่ระหว่าง 0.287 ถึง 0.355 ด้านความต้องการที่พบว่ามีค่า PNI Modified สูงสุดมีความสำคัญลำดับที่ 1 คือ ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ ลำดับที่ 2 คือ การสร้างทีมงาน ลำดับที่ 3 คือ การสร้างแรงจูงใจ ลำดับที่4 คือ การมอบอำนาจ และลำดับที่ 5 คือ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ  แนวทางการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2 มีแนวทางที่สำคัญดังนี้ ด้านความก้าวหน้าทางวิชาชีพ ควรส่งเสริมให้ครูมีแผนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องให้เกิดความก้าวหน้าในวิชาชีพครู ด้านการสร้างทีมงานควรสร้างทีมงานการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีมงาน ด้านการสร้างแรงจูงใจ ผู้บริหารสถานศึกษาควรส่งเสริม ให้กำลังใจ โดยการยกย่อง ชื่นชม ยินดี เมื่อประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน และ พิจารณาความดี ความชอบอย่างเป็นธรรม ด้านการมอบอำนาจ ผู้บริหารสถานศึกษาควรมอบอำนาจความรับผิดชอบในงานและให้อิสระในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ควรให้ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และร่วมรับผิดชอบผลการปฏิบัติงาน ให้ครูมีส่วนร่วมในการตัดสินแก้ไขปัญหาในถานศึกษาร่วมกัน

สรุปผล:  ผลการศึกษาชี้ให้เห็นถึงแนวทางการเสริมพลังที่สำคัญสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ข้อเสนอแนะ ได้แก่ การส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ การส่งเสริมและยอมรับความสำเร็จ การมอบหมายความรับผิดชอบและการให้อิสระ และการให้ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนการศึกษาและการแก้ไขปัญหา

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560). กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.

ณัฐพงศ์ หล้าวงศา.(2565). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาบริหารและพัฒนาคุณภาพการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ดวงกมล อนุเอกจิตร. (2560). การเสริมสร้างพลังอำนาจที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของครูโรงเรียนเอกชน จังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ดารารัตน์ อ้นถาวร. (2562). การเสริมสร้างพลังอำนาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทมธานี เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

นิลุบล ชูสอน. (2561). การเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของข้าราชการครูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ.

ปัทมา กาฬภักดี. (2566). การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้บริหารที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

พัชรมน คุ้มจินดา. (2560). แนวทางการเสริมสร้างพลังอำนาจครูของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏศิลปากร.

ภัทรคุณ บุญดุฉาว. (2564).บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาชีพครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ยุพิน ภูมิช่วง. (2562). การพัฒนาแนวทางเสริมสร้างพลังอำนาจครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

รัชนีกรนิภา มีมาก. (2561). การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในการจัดการค่านิยมหลัก 12 ประการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2. (2566). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566 - 2570). สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2.

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา. (2564). หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครู. กรุงเทพมหานคร.สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3), 607 –610.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-01-11

How to Cite

ทรงคาสี ร. ., & สอนสุภี ส. . (2025). แนวทางการเสริมพลังอำนาจสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2 . Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(1), 649–664. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280700