รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันความรุนแรงของเด็กและเยาวชนบนฐานฮีตลูก-คองหลานของวัฒนธรรมอีสาน ในจังหวัดมหาสารคาม
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2022.145คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วมของชุมชน; , ปัญหาความรุนแรงของเด็กและเยาวชน; , ฮีตลูก-คองหลานของวัฒนธรรมอีสานบทคัดย่อ
ปัญหาความรุนแรงของเด็กและเยาวชนที่เพิ่มขึ้นทุกวันถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและแก้ไข การนำเอาหลักคำสอนและหลักปฏิบัติตามฮีต-คองของชาวอีสาน มาพัฒนาเพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรงของเด็กและเยาวชนโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพื้นฟูวัฒนธรรมและศาสนาธรรมโบราณมาประยุกต์ใช้เพื่อส่งผลถึงชุมชนที่เกิดสันติสุขสงบสุขอย่างยั่งยืนเป็นแนวทางที่มีประโยชน์ การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของความรุนแรงของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม (2) เพื่อศึกษาเกี่ยวกับหลักคำสอนและหลักปฏิบัติของเด็กและเยาวชนที่ดีบนฐานฮีตลูก-คองหลานของวัฒนธรรมอีสาน ในพื้นที่ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม (3) เพื่อพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันความรุนแรงของเด็กและเยาวชนบนฐานฮีตลูก-คองหลานของวัฒนธรรมอีสานในพื้นที่ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคามเป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีเครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบประเมินผล แบบสังเกต และแบบบันทึก แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1. สภาพปัญหาความรุนแรงของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ผลการศึกษาปัญหาความรุนแรงและบ่อเกิดความรุนแรงของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ตำบลเขวาแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ด้านประกอบด้วย (1) ปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของเด็กและเยาวชน (2) ความรุนแรงในเด็กและเยาวชนคือความรุนแรงทางวาจาและความรุนแรงทางกาย 2. หลักคำสอนและหลักปฏิบัติของเด็กและเยาวชนที่ดีบนฐานฮีตลูก-คองหลานของวัฒนธรรมอีสานคือหลักปฏิบัติตนจากคองสิบสี่สำหรับประชาชาน และจากวรรณกรรมอีสาน เรื่องปู่สอนหลาน ย่าสอนหลาน เทวดาสอนโลก เป็นหลักปฏิบัติที่ได้รับอิทธิพลจาพระพุทธศาสนา คำสอนเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนที่เป็นคู่มือ ในการพร่ำสอนลูกหลาน ซึ่งมีการสอดแทรกจริยธรรมหรือคติธรรมอันเป็นธรรมเนียมหลักเป็นแนวทางหรือเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ดี 3.รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันความรุนแรงของเด็กและเยาวชนบนฐานฮีตลูก-คองหลานของวัฒนธรรมอีสานในพื้นที่ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม พบว่ามีการวางแผนการมีส่วนร่วมของชุมชนทั้ง 4 ฝ่ายและใช้การค้นหาทุนทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหาจัดกิจกรรมในการบูรณาการการอนุรักษ์ประเพณีฮีตสิบสองคองสิบสี่และสอดแทรกคำสอนคุณธรรมจริยธรรมให้เด็กและเยาวชน
References
เกื้อพิศุทธิ์ ประพรหม และ ทิพย์วัลย์ สุรินยา. (2561). การอบรมเลี้ยงดู ทัศนคติต่อการใช้ความรุนแรง ความฉลาดทาง อารมณ์กับพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่นตอนปลาย ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 44(2), 158-176.
นญา พราหมหันต์. (2560). ทายาทความรุนแรง : แนวคิดการประกอบสร้างทางสังคมต่อการจัดการประสบการณ์ความรุนแรง. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงาน ยุติธรรม, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภานุพงษ์ ชูรัตน์ และ ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม. (2563). บทบาทของชุมชนในการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว กรณีศึกษาอำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 14(2), 126-136.
ไมตรี อินเตรียะ. (2560). ทุนทางสังคม Social Capital. วารสารนาคบุตรปริทรรศน์, 9(2), 14-25.
รมิดา แสงสวัสดิ์. (2560). ความรุนแรงในสถานที่ทำงาน: ศึกษากรณีเจ้าหน้าที่และบุคลากรของโรงพยาบาลตำรวจ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รุ่งฤดี วงค์ชุม. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะสัมพันธภาพในครอบครัว และความผูกพันระหว่างบิดามารดากับบุตรกับพฤติกรรมความรุนแรงในวัยรุ่น. วารสารพยาบาลศาตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 20(38), 8-23.
วสมน ทิพณีย์. (2559). การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามแนวพุทธธรรม. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 7(1), 51-60.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 ปัญญา เสนาเวียง, สิบปีย์ ชยานุสาสนี จันทร์ดอน, นัฐธิญา จันทร์ดอน

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ