Guidelines for Innovation in the Disruptive Innovation Era under the Office of Nongkhai Primary Educational Service Area Office 1

Authors

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280236

Keywords:

Innovative organization, Development guidelines, The disruptive innovation era

Abstract

Background and Aims: The objective of this research is to study the current state and desired state of educational institutions' technological innovation during the digital disruptive era. The study focuses on primary schools under the Office of Nong Khai Primary Educational Service 1. The research involved a sample group of 302 individuals,

Methodology: including administrators and teachers, following the sampling size specified by using the Krejcie and Morgan table. Phase 1 collected quantitative data through questionnaires with a confidence level of 0.90. Statistical analysis included frequency, percentage, standard deviation, and prioritization using PNIModified. Phase 2: studying the guidelines of technological innovation during the digital disruptive era: Qualitative Data Collection Using Semi-Structured Interviews with 5 Qualified Individuals, Selectively Chosen, and Content Analysis Presented through description.

Results: 1) The current state overall is moderate. Regarding digital networking, the average score was the highest, while organizational culture creativity scored the lowest. The desired state of technological innovation overall is also moderate. Flexible organizational structure scored the highest, while clear vision setting and digital networking scored the lowest. The necessary requirement index ranges from 0.487 to 0.547, with the highest need identified in organizational culture creativity and the lowest in digital networking. 2) The guidelines of technological innovation during the digital disruptive era: include: The organizational culture creativity: Administrators should promote a friendly team working environment, introduce new collaborative work values, and facilitate teacher learning exchanges and role rotations in developmental efforts.

The flexible organizational structure: Administrators should focus on decentralizing power providing opportunities for teachers to work according to their skills and promoting a flexible working environment. Digital networking: Administrators should encourage teachers to integrate digital technology into teaching practices, create networks for learning about technology-based innovations, and provide continuous learning opportunities through collaboration. The clear vision setting: Administrators should establish policies aimed at fostering innovation, and develop strategic plans and performance indicators for collaborative innovation in learning and operations. Developing innovation capabilities: Administrators should encourage teachers who have undergone training to expand innovations within the school and disseminate innovations through various platforms.

Conclusion: 1) The current state overall is moderate. Regarding digital networking, the average score was the highest, while organizational culture creativity scored the lowest. The desired state of technological innovation overall is also moderate. Flexible organizational structure scored the highest, while clear vision setting and digital networking scored the lowest. The necessary requirement index ranges from 0.487 to 0.547, with the highest need identified in organizational culture creativity and the lowest in digital networking. 2) The guidelines of technological innovation during the digital disruption.

References

กรกต ขาวสะอาด.(2563). การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อการเป็นองค์การนวัตกรรมในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน.ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตรมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

จักภัทสรัณย์ ไตรรัตน์ และสิรินธร สินจินดาวงศ์. (2563). การพัฒนาสถานศึกษาสู่องค์กรนวัตกรรม กรณีศีึกษา: โรงเรียนในสหวิทยาเขตวิภาวดี. การประชุมนำเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 15 ปีการศึกษา 2563.

จาตุรนต์ ชุติธรพงษ์. (2553). การจัดการความรู้เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมของบุคลากร สายปฏิบัติการ วิชาชีพ ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.

ณัฐยา สินตระการผล. (2553). การสร้างนวัตกรรมให้เป็น Core competency. กรุงเทพฯ: เอ็กซ์เปอร์เน็ท.

ธันฐิตา พร้อมพันธุ์. (2563). ภาวะผู้นำเชิงผู้ประกอบการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อองค์การแห่งนวัตกรรมของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในจังหวัดชัยภูมิ. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ปริญ พิมพ์กลัด. (2557). ปัจจัยของนวัตกรรมองค์กรและองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่มีอิทธิพลต่อผล การ ดำเนินงานของสถาบันการเงินผู้ให้บริการด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์. วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน.

ปัญญา เลิศไกร, นิลรัตน์ นวกิจไพฑูรย์, ลัญจกร นิลกาญจน์, กฤตพร แซ่แง่ สายจันทร์. (2562). การจัดการนวัตกรรมการพัฒนาองค์กร. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย. 6 (8), 3745-3757

ปานชนก ด้วงอุดม. (2562). การศึกษาสภาพการเป็นองค์กรนวตกรรมของสถานศึกษาตามความคิดเห็น ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครศรีอยุธยา.

ปิยะ ตันติเวชยานนท์. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรม กรณีศึกษา: บริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นเนล เอ็กซ์เชนจ์ 1965 จำกัด. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัย ปทุมธานี, 9(2), 102- 111.

เปรมฤดี ศรี วิชัย, กฤตพัทธ์ ฝึกฝน และพินทอง ปินใจ. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานแบบมีส่วนร่วมวัฒนธรรมองค์การเชิงสร้างสรรค์กับความพึงพอใจในงานตามการรับรู้ของบุคลากร วิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนีพะเยา. วารสารสภาการพยาบาล, 28(3),95-107.

ภารดี อนันต์นาวี. (2565). ผู้บริหารสถานศึกษา: ภาวะผู้นําดิจิทัล. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ. 11(2), 1-12.

ภูเบศก์ บาลชน. (2563). โมเดลภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การนวัตกรรมของโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น: โมเดลแข่งขันภาวะผู้นำการเรียนรู้และภาวะผู้นำแบบร่วมพลัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ระวิพร โนนทิง และ อาคม อึ่งพวง. (2560). บรรยากาศองค์กรที่ส่งผลต่อองค์กรสมรรถนะสูงขององค์กร ในกำกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 11(3),205-215.

รุ่งนภา ดำเกิงลัภนวณิช. (2564). องค์การแห่งนวัตกรรมและองค์การแห่งการเรียนรู้ที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามสมรรถนะหลักของบุคลากรของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (บธ.ม.): มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒิ.

ศศิประภา ชัยประสิทธิ์. (2553). องค์กรแห่งนวัตกรรมทางเลือกของผู้ประกอบการยุคใหม่. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์และคณะ. (2553). นวัตกรรม: ความหมาย ประเภท และความสำคัญต่อการเป็นผู้ประกอบการ. วารสารบริหารธุรกจ, 33(128), 49 - 65.

สมหมาย ทองมี. (2552). ความเป็นองค์กรนวัตกรรมและความสามารถทางนวัตกรรมกรณีศึกษา โรงพยาบาล เกาะสมุย. การศึกษาอิสระบริหารธุรกจมหาบณฑต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1. (2565). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1. (2566). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566-2570. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1.

สุกัญญา แช่มช้อย. (2555). แนวคิดเชิงนวัตกรรมสำหรับการบริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 14(2), 117-128.

สุริศา ริมคีรี. (2563). การพัฒนาตัวบ่งชี้องค์การแห่งนวัตกรรมการศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, วารสารวิจัยรําไพพรรณี, 14(2), 77-90.

เสาวพันธ์ ภูมิอิทร์. (2565). รูปแบบการพัฒนาองค์กรนวัตกรรมในยุคนวัตกรรมพลิกผันของสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น.

อนุพงษ์ ชุมแวงวาปี. (2561). การพัฒนารูปแบบองค์การแห่งนวัตกรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยบูรพา.

อรัญญา พิสุทธากุล. (2566). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการองค์กรนวัตกรรมทางการศึกษาของสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 สังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น จังหวัดสมุทรปราการ. มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพและวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา.

อรุณรัตน์ วิไลรัตนกุล. (2565). องค์ประกอบคุณลักษณะผู้นำเชิงพุทธในสังคมนวัตกรรมพลิกผันสำหรับสถานศึกษา. บทความดุษฎีนิพนธ์เรื่อง โมเดลเชิงสาเหตุคุณลักษณะผู้นำเชิงพุทธในสังคมนวัตกรรมพลิกผันสำหรับสถานศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Downloads

Published

2025-01-10

How to Cite

Sanboonmueng, P., & Areerat, W. (2025). Guidelines for Innovation in the Disruptive Innovation Era under the Office of Nongkhai Primary Educational Service Area Office 1 . Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(1), 577–596. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280236