อิทธิพลของรูปแบบการทำงานแบบผสมผสานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดปทุมธานี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยรูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน และประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานที่ทำงานสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดปทุมธานี 2) เปรียบเทียบประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานที่ทำงานสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดปทุมธานี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) ศึกษาอิทธิพลของรูปแบบการทำงานแบบผสมผสานที่ต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานที่ทำงานสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย คือ พนักงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก (Convenience Sample) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์แบบถดถอยพหุคูณเชิงเส้น

ผลการวิจัย พบว่า 1) ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยรูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน และประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานที่ทำงานสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดปทุมธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ ด้านสถานภาพสมรส และด้านระดับตำแหน่งงานที่แตกต่างกัน มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุ และด้านการศึกษาที่แตกต่างกันมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานโดยภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) รูปแบบการทำงานด้านการยืดหยุ่นเวลาทำงาน ด้านการยืดหยุ่นสถานที่ทำงาน ด้านการยืดหยุ่นสวัสดิการ และด้านการยืดหยุ่นการแต่งกาย มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมของพนักงานสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดปทุมธานี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05