การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยแนวทางการเรียนรู้เชิงรุก และการกำกับตนเอง เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับนักศึกษาครู สาขาวิชาภาษาไทย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยแนวทางการเรียนรู้เชิงรุกและ        การกำกับตนเอง เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับนักศึกษาครู สาขาวิชาภาษาไทย ออกแบบการวิจัยเป็นแบบ    กึ่งทดลอง (Quasi - experimental Design) ชนิด One Group Pretest-Posttest Design ประชากร คือ นักศึกษาครู สาขาวิชาภาษาไทย จากสถาบันผลิตครู ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1,260 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นิสิตครู จำนวน 22 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) ด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการเรียนการสอนด้วยแนวทางการเรียนรู้เชิงรุกและการกำกับตนเอง 2) แบบประเมินสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่า t-test และ          P-Value ผลการวิจัยพบว่า 1) นิสิตที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีคะแนนสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนด้านความรู้ (knowledge) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) สมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนด้านทักษะ (Skills) นิสิตมีคะแนน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 84.09 คิดเป็นร้อยละ 84.09 และนิสิตทุกคนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 คิดเป็นร้อยละ 100 และ 3) สมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนด้านเจตคติ (Attitude) นิสิตมีคะแนน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.71 แปลความได้ว่า นิสิตมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด และนิสิตทุกคนคิดเป็น ร้อยละ 100 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย คือ 1) ได้รูปแบบการเรียน การสอนด้วยแนวทางการเรียนรู้เชิงรุก และการกำกับตนเอง