ความแตกต่างระหว่างเพศในการทดสอบโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของมิติทางบุคลิกภาพ การติดไซเบอร์ และความก้าวร้าวทางไซเบอร์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบโมเดลเชิงสาเหตุของมิติทางบุคลิกภาพ การติดไซเบอร์ และความก้าวร้าวทางไซเบอร์ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาปริญญาตรีจำนวน 870 คนของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี            จากจำนวน 6 คณะ ใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน โดยขั้นแรกใช้การสุ่มแบบแบ่งกลุ่มจากคณะ จากนั้นสุ่มวิชาเอกจากคณะ และสุ่มเพศจากแต่ละวิชาเอก เครื่องมือประกอบด้วย มาตรวัด BIS-11 CMNI-46 และ CFNI-45 มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.51-1.00, 0.61-0.79 และ 0.65-1.00 ตามลำดับ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์กลุ่มพหุ และวิเคราะห์โมเดลโดยแยกกลุ่ม ผลการวิจัยพบว่า 1) กแลุ่มเพศชาย มีบทบาททางเพศ (Mf) ที่มีอิทธิพลทางตรงต่อการติดไซเบอร์และความก้าวร้าวทางไซเบอร์ มีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลเท่ากับ 0.742 และ 0.826 และค่าสัมประสิทธิ์การทำนายเป็น ร้อยละ 66.2  และ ร้อยละ 73.3     ส่วนกลุ่มเพศหญิง มีความหุนหันพลันแล่น (Im) และบทบาททางเพศ (Mf) ที่มีอิทธิพลทางตรงต่อการติดไซเบอร์และความก้าวร้าวทางไซเบอร์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลการติดไซเบอร์เท่ากับ 0.660 และ 0.355 ตามลำดับ มีค่าสัมประสิทธิ์การทำนายเท่ากับ ร้อยละ 69.8 และมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลความก้าวร้าวทางไซเบอร์เท่ากับ 0.679 และ -0.182 ตามลำดับ และมีค่าสัมประสิทธิ์eการทำนายเท่ากับ ร้อยละ 91.6 2) โมเดลเชิงสาเหตุของมิติทางบุคลิกภาพ การติดไซเบอร์ที่มีต่อความก้าวร้าวทางไซเบอร์ของกลุ่มเพศต่างกันมีความไม่แปรเปลี่ยนด้านรูปแบบของโมเดล และค่าพารามิเตอร์ของเมตริกซ์ ผลการศึกษาที่ได้นี้ได้นำไปสู่การพัฒนาบุคลิกภาพที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการติดไซเบอร์และความก้าวร้าวทางไซเบอร์ของนักศึกษาต่อไป