แนวทางสำหรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์: การเพิ่มคุณค่าให้แก่ทรัพยากรทางวัฒนธรรม และธรรมชาติในเมืองรอง กรณีศึกษาจังหวัดจันทบุรี ประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณค่าของทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี ทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างการใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเมืองรองกับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวที่ได้รับมาจากการทำงานร่วมกันแบบจตุภาคี และการสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกัน และศึกษากรณีเปรียบเทียบการใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมืองอื่นๆ เช่น เมืองสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันแบบจตุภาคี และการสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกัน วิธีวิจัยที่ใช้คือแบบผสมผสานระหว่างวิธีวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจค่าความเชื่อมั่นและความตรงเชิงเนื้อหาจากค่าดัชนีความสอดคล้องโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ส่วนแบบสัมภาษณ์จะเป็นแบบกึ่งมีโครงสร้าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือนักท่องเที่ยวที่แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติในจังหวัดจันทบุรีจำนวน 590คน และผู้ให้สัมภาษณ์หลัก 20 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ตารางไขว้ และค่าสหสัมพันธ์ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณจะใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงพรรณนาผลการวิจัยพบว่า จังหวัดจันทบุรีมีความพร้อมในด้านปัจจัยด้านทรัพยาการทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลาย และประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังจังหวัดจันทบุรี กับการใช้โมเดลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยยะ นอกจากนั้นยังพบว่าแนวทางสำหรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติในเมืองรองคือ การทำงานร่วมกันแบบจตุภาคีและการสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกัน โดยที่มหาวิทยาลัยในท้องถิ่นมีบทบาทหลักในการส่งเสริมทำงานร่วมกันและการสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกัน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Collins, P., & Cunningham, J. A. (2017). Creative Economies in Peripheral Regions. Springer Nature.
Hauge, E. S., Pinheiro, R. M., & Zyzak, B. (2016). Knowledge bases and regional development: collaborations between higher education and cultural creative industries. International Journal of Cultural Policy, 24(4), 485-503.
Kolehmainen, J., Irvine, J., Stewart, L., Karacsonyi, Z., Szabo., Alarinta, J., & Norberg, A. (2015). Quadruple Helix, Innovation and the Knowledge-Based Development: Lessons from Remote, Rural and Less-Favoured Regions. Journal of the Knowledge Economy, 7(2016), 23-42.
OECD. (2014). Tourism and the Creative Economy. Paris: OECD Publishing.
Leclercq, T., Hammedi, W., & Poncin, I. (2016). Ten years of Value Cocreation: An Integrative Review. Retrieved May 2019, from https://dial.uclouvain.be/pr/boreal/object/boreal:169488/datastream/PDF_01/view
Lo, M.C., Mohamad A.A., Chin, C.H., & Ramayah, T. (2017). The impact of natural resources, cultural heritage, and special events on tourism destination competitiveness: the moderating role of community support. International Journal of Business and Society, 18 S4 (2017), 763-774.
Križanović, K., Lubar, H. M., & Gajos, M. (2014). Importance of Triple (Quadruple) Helix Concept for Regional Development-Case Study” Faculty of Economics in Osijek. Doctoral dissertation, University of J.J. Strossmayer in Osijek, Faculty of Economics in Osijek.
Plé L and Cáceres RC (2010) Not always co-creation: introducing interactional co-destruction of value in service-dominant logic. Journal of Services Marketing. 24(6): 430-437.
Prahalad, C. K., & Ramaswamy, V. (2004). Co-creation experiences: The next practice in value creation. Journal of Interactive Marketing, 18(3), 5-14.
Vargo, S. L., & Lusch, R. (2008). Service-dominant logic: continuing the evolution. Journal of the Academy of Marketing Science, 36(1), 1-10.
Yupakaset, W. (2019). Creative City: Long Poed Chai Hai Mueang Rong. Creative Thailand, 10(7), 24-27.