การพัฒนารูปแบบการสอนดนตรีสำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษา

Main Article Content

จิรานุวัฒน์ ขันธจันทร์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการสอนดนตรีสำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษา  2) ประเมินคุณภาพของรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น ใช้วิธีวิจัยและพัฒนา มีกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มคือผู้สอนวงดนตรีลูกทุ่ง 5 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงคุณภาพ และวงดนตรีลูกทุ่งที่ใช้เป็นกลุ่มทดลอง 1 วง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 2 ชุดได้แก่ 1) ชุดเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ  ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต  และ 2) เครื่องมือที่ใช้ทดลอง  ได้แก่  รูปแบบการสอนดนตรีสำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีองค์ประกอบของรูปแบบการสอนครบถ้วน  แบบประเมินคุณภาพและความเหมาะสม  แบบประเมินพัฒนาการทักษะของผู้เรียน  แบบประเมินความคิดเห็นที่มีต่อคุณภาพของรูปแบบการสอน


              ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการสอนดนตรีสำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษานั้นนำเสนอได้ใน 2 ลักษณะ  คือ รูปแบบเชิงภาษา และรูปแบบเชิงแผนผัง โดยมีกระบวนการของรูปแบบทั้งหมด 7 ขั้น คือ 1. การมองและกำหนดเป้าหมายในการจัดการเรียนการสอนดนตรีลูกทุ่ง 2. ทำความเข้าใจแล้วออกแบบแผนและวิธีการสอน 3. การจัดการความสัมพันธ์องค์ประกอบของแผนและวิธีการสอน 4. นำไปสู่การปฏิบัติ 5. การปรับปรุงแก้ไขปัญหา 6. การนำรูปแบบใหม่ที่ได้ปรับปรุงมาใช้ 7. การสะท้อนกลับของข้อมูลทั่วไป รูปแบบการสอนมีองค์ประกอบที่จำเป็นคือ คู่มือสำหรับรูปแบบการสอนดนตรีสำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษา  แบบฝึกทักษะทางดนตรีกลุ่มเครื่องเป่า และเครื่องประกอบจังหวะ     แบบประเมินพัฒนาการทักษะทางดนตรีของผู้เรียน  2) ผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบการสอนด้านความเหมาะสมในการนำไปใช้โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า (= 4.68) และ (S.D.= 0.46) หมายถึงมีคามเหมาะสมในการนำไปใช้ในระดับมากที่สุด   ผลการประเมินพัฒนาการทักษะทางดนตรีของผู้เรียน ในการฝึกทักษะดนตรีลูกทุ่งโดยรวมพบว่า ( = 87) หมายถึง พัฒนาการของผู้เรียนอยู่ในระดับมากที่สุด  ผลการประเมินความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนดนตรีสำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษา จากครูผู้สอนกลุ่มทดลองพบว่า ( = 4.85) หมายถึงครูผู้สอนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนในด้านคุณภาพว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research article)

เอกสารอ้างอิง

Dick, W. and Carrey, L. (1991). The Systematic Design of Instruction. 4th ed. NewYork : Longman.
Johnson, K.A. ,and Foa,L.J. (1989). Instructional Design : New Alternatives for.
EffectiveEducation and Training. New York : Macmillan Publishing company.
Keeves, J.P. (1997). Education research, methodology, and measurement: An
International. handbook. Oxford : Pergamon Press.

Kemp, J.E., Morrison, G., Ross, R. and Steven, M. (1994). Designing Effective Instruction. New York : Macmillan
College.
Khammanne, T. (2007). Teaching pedagogy: Body of knowledge for effective
learning management (6th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press.
________.(2009). Teaching pedagogy: Body of knowledge for effective
learning management (10th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Khlaisri.P. (2017). Development of the instructional model using blended learning and metacognition
for Faculty of Education Students in Rajabhat University in the Northeastern. College of Education :
Dhurakij Pundit University
Sairat, S. (2016). Development of learning management for E-San Folk Music to
promote musical skills and self-esteem of Mathayomsuksa 1 students, basedon the multiple intelligences and cooperative learning approaches (Master’sthesis). Mahasarakham: Graduate School, Mahasarakham University.
Srisa-ard, B.(1994). Development of teaching (1st ed.). Bangkok: Suweeriyasarn.
Suttajit, N. (1997). Activities for teachers. Bangkok: Chulalongkorn University.
________.(1997). Behaviors in music teaching. Bangkok: Chulalongkorn University.
Thanakittiphum, W.and Sappaso, P. (2016). Problems and development guidelines formusic teaching in
secondary educational level of demonstration schools in Northeastern, Thailand. Journal of Education Khon Kaen University (Graduate Studies Research), 10(3), pp. 187-193.