การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้แบบ STAD ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้แบบ STAD ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบ STAD กับกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ ระหว่างกลุ่มที่ใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้แบบ STAD กับแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 80 คน มีทั้งสิ้น 2 ห้องเรียน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) แบ่งเป็น 2 ห้องเรียน ได้แก่ ห้องเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ STAD ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาและทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ และห้องเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ STAD กับแบบปกติ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.99 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.80
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้แบบ STAD ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.70/81.87 และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.60/76.60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ STAD มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6284 และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ มีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.5237 3) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ STAD มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ STAD มีความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ สูงกว่านักเรียนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
theknik STAD rư̄ang samakān chœ̄ng sēn tūaprǣ dīeo klum sāra kān rīanrū khanittasāt chan
matthayommasưksā pī thī nưng [Development of learning activities By using cooperative learning
methods based on STAD technique on linear equations one variable Group learning mathematics
Mathayomsuksa 1(Unpublished master thesis)], Rajabhatmahasarakham University, Mahasarakham,
Thailand.
2. Khamhongsa, S. (2013). kānprīapthīap phon samrit thāngkān rīan rư̄ang samakān chœ̄ng sēn tūaprǣ dīeo
khō̜ng nakrīan chan matthayommasưksā pī thī nưng rawāng kānčhatkān rīanrū bǣp rūammư̄ bǣp
STAD kap kānčhatkān rīanrū bǣp pakati [Comparison of learning achievement Subject Linear
equation with one variable of mathayomsuksa 1 students between STAD cooperative learning
management and management Learn normally (Unpublished master thesis)]. Mahasarakrm
University, Mahasarakham, Thailand.
3. Manhkhang, S. (2012). kānphatthanā chut kitčhakam kān rīanrū rư̄ang samakān chœ̄ng sēn tūaprǣ dīeo
dōi chai rūpbǣp kān rīanrū bǣp rūammư̄ theknik STAD samrap nakrīan chan matthayommasưksā
pī thī nưng [Development of a set of learning activities on linear equations, one variable using
Cooperative learning model STAD technique for Mathayomsuksa 11 (Unpublished master thesis)].
Burapa university, Chonburi, Thailand.
4. Ministry of Education. (2008). laksūt kǣn klāng kānsưksā naphư̄n thān Phutthasakkarāt
sō̜ngphanhārō̜ihāsipʻet [Basic Education Core Curriculum 2008]. Ministry of Education, Bangkok,
Thailand.
5. Phuinuan, S. (2007). kānphatthanā rūpbǣp kānsō̜n bǣp rūammư̄ kan rīanrū bǣp STAD læ phon samrit
thāngkān rīan klum sāra kān rīanrū khanittasāt rư̄ang čhōt panhā kān būak læ kān lop
čhamnūannap thī mī phonlap læ tūatang mai kœ̄n 100,000 khō̜ng nakrīan chan prathomsưksā pī
thī sām [Development of a co-teaching model for STAD learning and academic achievement
Learning mathematics strands on the problem of adding and subtracting numbers with results and
Not more than 100,000 students in grade 3 (Unpublished master thesis)]. Khonkaen University,
Khonkaen, Thailand.
6. Prathumchat, T. (2005). kānphatthanā phǣnkān čhatkān rīanrū wichā khanittasāt rư̄ang kān prayuk khō̜ng
samakān chœ̄ng sēn tūaprǣ dīeo khan matthayommasưksā pī thī sō̜ng [Development of learning
management plans Mathematics The application of Linear equations, one variable
Mathayomsuksa 2 (Unpublished master thesis)]. Mahasarakham University, Mahasarakham,
Thailand.
7. Ruamchit, S. (2545). kānphatthanā kitčhakam kānsō̜n kǣ čhōt panhā khanittasāt chan prathomsưksā pī thī
hok dōi chai rūpbǣp kānsō̜n bǣp rūammư̄ kan rīanrū”. [Development of mathematics problem
solving activities Grade 6 By using cooperative learning styles to learn (Unpublished master
thesis)]. Khonkaen University, Khonkaen, Thailand.
8. Ruangkasem, K. (2004). kānphatthanā kitčhakam kān rīanrū rư̄ang set klum sāra kān rīanrū khanittasāt chan
matthayommasưksā pī thī sī dōi kān rīan bǣp bǣng klum tām sangkat samrit phon thāngkān rīan
( STAD ) [Development of learning activities on set Group learning mathematics Mathayomsuksa 4
by grouping according to learning achievement (STAD) (Unpublished master thesis). Master of
Education Program in Curriculum and Instruction, Mahasarakham University, Mahasarakham, Thailand.
9. Slavin R.E. (1995). Cooperative Learning. Theory, Research and Practice. 2nd ed. National Council of
Teachers of Mathematics. (1989). Curriculum and Evaluation Standards for School Mathematics
From ; http://www.nctm.org/about/related.htm.
