สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งการเรียนรู้ ของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา 2) ศึกษาองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา และ 3) สร้างสมการพยากรณ์การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนทั้งสิ้น 285 คน จำแนกเป็น ผู้บริหารโรงเรียน 17 คน ครู 268 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของตาราง Krejcie & Morgan เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการทดสอบสมมติฐาน ใช้สถิติการถดถอยพหุคูณแบบมีขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 2) การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 3) การสร้างสมการพยากรณ์การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาด้านการมุ่งผลสัมฤทธิ์ (X6) สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ (X4) มีค่าสัมประสิทธิ์ถดถอยในรูปคะแนนมาตรฐาน คือ .68 และ .17 ตามลำดับ โดยสามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร้อยละ 69.2 และเขียนเป็นสมการพยากรณ์ได้ ดังนี้
สมการณ์พยากรณ์ ในรูปคะแนนดิบ
= 1.29 + .56X6 + .14X4
สมการณ์พยากรณ์ ในรูปคะแนนมาตรฐาน
= .68zx633+ .17zx4
Article Details
เอกสารอ้างอิง
นพพร ล่ำสัน. (2558). ภาวะผู้นำและสมรรถนะของผู้บริหารที่ส่งผลต่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. 2(2). 136-149
นุชนรา รัตนศิระประภา. (2557). สมรรถนะของผู้บริหารที่ส่งผลต่อคุณลักษณะโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal. 7(3). 507-528.
บรรลุ ชินน้ำพอง. (2556). สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วน จังหวัดขอนแก่น. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา. 7(1). 92-103.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ภัสราภรณ์ อยู่มาก. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวัง สนามจันทร์. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 28(2). 85-96
สมศักดิ์ สมมาคูณ. (2552). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนของครู สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 4. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี.
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด. (2561). แผนปฏิบัติราชการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด. สืบค้นเมื่อ พฤษภาคม 2561, จาก www.nesdb.go.th.
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2561). ภาวะผู้นำ: ทฤษฎีและปฏิบัติ:ศาสตร์และศิลป์สู่ความเป็นผู้นำที่สมบูรณ์. กรุงเทพฯ: วิรัตน์ เอ็ดดูเคชั่น.
Boam, R., & Sparrow, P. (Eds.). (1992). Designing and Achieving Competency: a Competency-Based Approach to Developing People and Organizations. New York: McGraw-Hill.
Knezevich, S.J. (1984). Administration of Public Education: A Sourcebook for the Leadership and Management of Educational Institutions. NewYork: Harpercollins
McClelland, D.C. (1975). A competency model for human resource management Specialists to be used in the delivery of the human resource management cycle. Boston: Mcber.
Senge, P.M. (1990). The Fifth Discipline : The Art and Practice of the Learning Organization. New York : Currency Doubleday.
Spencer, L.M., & Spencer, S.M. (1993). Competency at work. New York: John Wiely & Sons.