การวิเคราะห์องค์ประกอบของทัศนคติต่อปัจจัยความเสี่ยงในการทุจริตเพื่อระบบการควบคุมภายในที่ดี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ตามสภาพที่เป็นจริงของสังคม 2) เพื่อศึกษารูปแบบของปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีต่อการทุจริตตามสภาพที่เป็นจริงของสังคม ประชากรที่ใช้ คือ ผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบภายใน สังกัดสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประกอบด้วย ผู้สอบบัญชี 760 ราย และ ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 ราย รวมประชากรที่ใช้ในการศึกษา 775 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และแบบสอบถาม ชนิดมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยง เท่ากับ 0.451 – 0.739 ซึ่งมีค่ามากกว่า 0.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis) โดยใช้การวิเคราะห์ด้วยวิธีสกัดองค์ประกอบ (Principal Component Analysis PCA)
ผลการวิจัยพบว่า ต้นแบบของปัจจัยความเสี่ยงที่มีต่อการทุจริต ประกอบด้วย 3 ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ 1. ปัจจัยความเสี่ยงด้านการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย ระเบียบ 2. ปัจจัยความเสี่ยงด้านส่วนบุคคล และ 3. ปัจจัยความเสี่ยงด้านระบบการควบคุมภายใน ซึ่งปัจจัยความเสี่ยงทั้ง 3 ปัจจัยเสี่ยง มีความสอดคล้องเป็นไปทิศทางเดียวกับมิติของมาตรฐาน COSO ดังนั้น ผู้เขียนขอนำเสนอแนวทางในการใช้ประโยชน์จากปัจจัยความเสี่ยงที่ได้จากการศึกษางานวิจัยในครั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบภายในและภายนอก เพื่อให้แผนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารและทุกคนในองค์กรควรให้ความสำคัญกับการจัดให้มีระบบการควบคุมภายใน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO). (2015). Guidance on internal control: Internal control framework 2013. Retrieved April 15, 2018, from https://www. coso.org.
Glaser, B.G., & Strauss, A.L. (1967). The Discovery of Grounded Theory: Strategies for Qualitative Research. New York: Aldine De Gruyter.
Habib, A., & Hossain, M. (2013). CEO/CFO Characteristics and fi nancial reporting quality: A review.Research in Accounting Regulation, 25(1), 88-100.
Heidenheimer, Arnoid J. (1989). Political Corruption : Readings in Comparative Analysis New York : Holt, Rinehart and Winston, Inc.,.
Hopwood, W. S., Leiner, J. J. & Young, G. R. (2009). Forensic accounting. International edition. McGraw-Hill.
Klitgard, Robert. (1999). Controlling Corruption. University of California Press.
Lamoureux, M. (2013). Internal controls handbook: The power sector and NERC compliance. North Charleston: CreateSpace Independent Publishing Platform.
Rittenberg, L. (2013). COSO Internal control-integrated framework: turning principles into positive action. Altamonte Springs, Florida: The Institute for Internal Auditors Research Foundation.
Singleton, T. W., Singleton, A., Bologna, J., & Lindquist, R. (2006). Fraud auditing and forensic accounting. New York: John Wiley & Sons.
Williams, Robert J. (2000). Explaining Corruption. The Politics of Corruption 1 Cheltenham: Edward Elgar Publishing.
Wright, R. A. (2013). The internal auditor’s guide to risk assessment. Altamonte Springs, Florida: The Institute for Internal Auditors Research Foundation.
