ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุ ในเขตเทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี

Abstract

      การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา1) ลักษณะส่วนบุคคล และพฤติกรรมการลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุ2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุ3)ความสัมพันธ์ของลักษณะส่วนบุคคล พฤติกรรมการลงทุนทางการเงิน และปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุกลุ่มตัวอย่างได้แก่ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี จำนวน 342 คนโดยเครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบจำลองโลจิต

     ผลการวิจัยพบว่า1) ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 60 – 69 ปี จบการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ก่อนเกษียณส่วนใหญ่ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท  มีรายได้ครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน 10,000 – 50,000 บาท มีภาระรับผิดชอบรายจ่ายของครอบครัว มีความคิดเห็นเห็นด้วยกับการลงทุนทางการเงิน มีความพึงพอใจในชีวิตอยู่ในระดับมาก และคิดว่าประสบความสำเร็จในชีวิตระดับมาก ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ลงทุนทางการเงินด้วยการนำเงินฝากธนาคาร แหล่งที่มาของเงินทุนส่วนใหญ่ใช้เงินออม ผู้ที่มีอิทธิพลในการตัดสินใจลงทุนทางการเงินมากที่สุด ได้แก่ ครอบครัวหรือญาติพี่น้อง 2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุมากที่สุดคือด้านบุคลากรในการให้บริการ 3) ผลการศึกษาความสัมพันธ์ของลักษณะส่วนบุคคล พฤติกรรมการลงทุนทางการเงิน และปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุด้วยแบบจำลองโลจิตพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ โรคประจำตัว ความรับผิดชอบต่อรายจ่ายของครอบครัว ความพึงพอใจในชีวิต  และปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์: แหล่งลงทุนมีความน่าเชื่อถือ สามารถอธิบายโอกาสในการลงทุนทางการเงินของผู้สูงอายุได้อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01