พุทธบูรณาการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ด้านการปกครองต่อผู้ต้องขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง
คำสำคัญ:
พุทธบูรณาการ, เจ้าพนักงานราชทัณฑ์, ศักยภาพการปฏิบัติงานบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ด้านการปกครองต่อผู้ต้องขัง 2. เปรียบเทียบศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ด้านการปกครองต่อผู้ต้องขัง และ 3. ศึกษาพุทธบูรณาการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ด้านการปกครองต่อผู้ต้องขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณด้วยการแจกแบบสอบถาม โดยมีประชากรในการวิจัย คือ ข้าราชการทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง จำนวน 75 คน ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์ โดยผู้วิจัยเลือกใช้สถิติการเปรียบเทียบ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล โดยการทดสอบค่าทีและค่าเอฟเพื่อทดสอบสมมติฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 10 คน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานราชทัณฑ์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน รองลงมา คือ ด้านนโยบายการบริหารงาน ด้านสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน ด้านความก้าวหน้าในการทำงาน ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ด้านลักษณะงาน 2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็น พบว่า ระดับตำแหน่งมีผลต่อความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จึงยอมรับสมมติฐานบางข้อของการวิจัย ในขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ เช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่มีผลต่อความแตกต่างของความคิดเห็นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3. พุทธบูรณาการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการปฏิบัติงาน พบว่า เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ควรแสดงความเอื้อเฟื้อและเห็นคุณค่าในความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขัง (เมตตา) เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ปรับพฤติกรรมและได้รับการฟื้นฟู (กรุณา) ยินดีกับความสำเร็จของผู้ต้องขัง (มุทิตา) วางใจเป็นกลาง มีสติและควบคุมอารมณ์ในการตัดสินใจ (อุเบกขา)
เอกสารอ้างอิง
กนกอร นนทสร. (2565). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรกรมสรรพากรในกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
กรมราชทัณฑ์. (2563). การแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2563. นนทบุรี: กรมราชทัณฑ์.
_____. (2566). แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570). นนทบุรี: กรมราชทัณฑ์.
กัณต์ศักดิ์ ยศศรี. (2567). การสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานด้วยหลักพรหมวิหาร 4 ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 2(1), 12-29.
คมสัน สุขฤทธิ์. (2563). คุณภาพชีวิตการทำงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เขต 4 (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
ธนภรณ์ พรรณราย. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
นิดา ประพฤติธรรม. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน. สืบค้น 2 มิถุนายน 2567 จาก https://shorturl.asia/3rJKx
พระครูสุวรรณจันทรังษี (คำมุ โคตรโนนกอก). (2566). การบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ (วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ไพฑูรย์ วาอุทัศน์. (2564). การเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของข้าราชการฝ่ายทะเบียนประวัติผู้ต้องขัง สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุรีรัตน์ คำชมภู. (2563). ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 23. สืบค้น 5 มิถุนายน 2567, จาก https://url.in.th/iwose
อรรถพล วงศ์กระจ่าง. (2567). การใช้หลักธรรมพรหมวิหารธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในเรือนจำจังหวัดสงขลา. วารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์, 9(1), 120-137.
Best, J. W. (1977). Research in Education (3rd ed.). Prentice-Hall.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

