การกำหนดนโยบายสาธารณะตามแนวสังคหวัตถุ 4 เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ
คำสำคัญ:
นโยบายสาธารณะ, ธรรมาภิบาล, สังคหวัตถุ, ภาครัฐบทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ ได้แก่ 1. วิเคราะห์แนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะในภาครัฐโดยบูรณาการหลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา และ 2. พัฒนาแนวคิดเชิงโครงสร้างที่เชื่อมโยงหลักธรรมดังกล่าวกับหลักธรรมาภิบาลในกระบวนการนโยบายสาธารณะอย่างเป็นระบบ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการบูรณาการสังคหวัตถุ 4 มีศักยภาพในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลเชิงคุณธรรม โดยช่วยลดช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชน เสริมสร้างความไว้วางใจ ความเท่าเทียม และความยั่งยืนในทางปฏิบัติ บทความนำเสนอองค์ความรู้ใหม่ในรูปแบบ โมเดลการกำหนดนโยบายสาธารณะเชิงคุณธรรม ซึ่งเชื่อมโยงแต่ละหลักของสังคหวัตถุเข้ากับขั้นตอนของวงจรนโยบาย ได้แก่ การกำหนดปัญหาเชื่อมกับทาน การออกแบบทางเลือกเชื่อมกับปิยวาจา การตัดสินใจเชิงนโยบายเชื่อมกับอัตถจริยา การนำนโยบายไปปฏิบัติเชื่อมกับสมานัตตตา และการประเมินผลบูรณาการหลักทั้ง 4 โมเดลนี้มิได้เป็นเพียงกรอบจริยธรรมในเชิงนามธรรม แต่สามารถนำไปใช้จริงในเชิงนโยบายเพื่อเสริมสร้างการบริหารภาครัฐให้มีคุณภาพทั้งในเชิงผลสัมฤทธิ์และในเชิงคุณธรรม อันเป็นรากฐานสำคัญของธรรมาภิบาลร่วมสมัย
เอกสารอ้างอิง
พระครูสังฆรักษ์ปรีชา ฐิตญาโณ. (2564). การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนกับวัด ตามหลักสังคหวัตถุ 4. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(6), 77-87.
พระครูสุตธรรมานุศาสก์ (สำราญ ญาณวุฑฺโฒ). (2567). การประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ 4 ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของชุมชนวัดสามัคคีธรรม อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 11(10), 31-38.
มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2545). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545–2549). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
_____. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สุรสิทธิ์ วชิรขจร. (2550). การประเมินประสิทธิภาพการมอบอำนาจด้านการบริหารงาน บุคคลให้เหมาะสมกับพื้นที่ : ศึกษากรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร, 9(2), 1-60.
Anderson, J. E. (2014). Public policymaking: An introduction (8th ed.). Stamford, CT, USA: Cengage Learning.
Dye, T. R. (2013). Understanding public policy (14th ed.). Upper Saddle River, NJ, USA: Pearson.
Fukuyama, F. (2013). What is governance?. Governance, 26(3), 347–368.
Grindle, M. S. (2007). Good enough governance revisited. Development Policy Review, 25(5), 553-574.
Howlett, M. et al. (2020). Studying public policy: Policy cycles and policy subsystems (4th ed.). Toronto, Canada: Oxford University Press.
Michael E. K. & Scott R. F. (2007). Public policy: Politics, analysis, and alternatives. Retrieved April 29, 2025, from https://url.in.th/sHpDy
Rhodes, R. A. W. (2017). Understanding governance: Policy networks, governance, reflexivity and accountability (2nd ed.). Buckingham, UK: Open University Press.
UNESCAP. (2009). What is good governance?. United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific. Retrieved April 29, 2025, from https://url.in.th/jouIh
World Bank. (2007). Strengthening World Bank Group engagement on governance and anticorruption. Washington, D.C., USA: World Bank Publications.
Daft, R. L. (2010). Organization theory and design (10th ed.). Mason, OH: South-Western Cengage Learning.
Gerloff, E. A. (1985). Organizational theory and design: A strategic approach. New York: McGraw-Hill.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

