ความต้องการจำเป็นของทักษะภาวะผู้นำทางการศึกษาของผู้บริหารเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนคาทอลิกในสังฆมณฑลจันทบุรี
คำสำคัญ:
ความต้องการจำเป็น, ทักษะภาวะผู้นำทางการศึกษา, ผู้บริหาร, การเปลี่ยนแปลง, โรงเรียนคาทอลิกในสังฆมณฑลจันทบุรีบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นของทักษะภาวะผู้นำทางการศึกษาของผู้บริหารเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนคาทอลิกในสังฆมณฑลจันทบุรี โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม (Mixed-Methods Research) ซึ่งประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มประชากรประกอบด้วยบุคลากรทางการศึกษาจาก 21 โรงเรียนคาทอลิกใน 6 จังหวัดภาคตะวันออกของประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างจำนวน 566 คน (ผู้บริหาร 124 คน และครู 442 คน) ได้รับการคัดเลือกโดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลคือแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (IOC = 1.00) และมีค่าความเชื่อมั่นสูง (Cronbach’s Alpha = 0.983) การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ สถิติเชิงพรรณนา (ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (PNI Modified) ในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพได้ทำการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) กับผู้บริหารสถานศึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) เพื่อสังเคราะห์ข้อมูลและระบุทักษะที่จำเป็นของผู้บริหารในบริบทของการเปลี่ยนแปลง
ผลการวิจัยพบว่า ทักษะที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุด ได้แก่ ทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัล (PNI=0.092) รองลงมาคือ ทักษะด้านการสร้างแรงบันดาลใจ (PNI=0.087) และทักษะด้านการคิดวิเคราะห์และคิดสร้างสรรค์ (PNI=0.083) ข้อมูลจากการสัมภาษณ์สนับสนุนผลการวิเคราะห์เชิงปริมาณ โดยระบุว่าผู้บริหารต้องพัฒนาทักษะเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสถานศึกษาในยุคดิจิทัล ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนคาทอลิก เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและยกระดับคุณภาพการศึกษาในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
ชัยยนต์ เพาพาน. (2559). ผู้บริหารโรงเรียนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21. วารสารคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, 1(1), 304-306.
ธีระ รุญเจริญ. (2553). ความเป็นมืออาชีพในการจัดการและการบริหารการศึกษาในยุคปฏิรูปการศึกษา (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ: ข้าวฟ่าง.
บุญมา แพ่งศรีสาร. (2560). คุณลักษณะผู้บริหารทางการศึกษาในยุคศตวรรษใหม่. วารสาร มจร. นครน่านปริทรรศน์, 2(2), 131-141.
สภาการศึกษาคาทอลิก. (2558). ตลอดกาลนิรันดร์ 350 ปีการศึกษาคาทอลิกไทย. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2544). รูปแบบการบริหารและการจัดการศึกษาแบบกระจายอำนาจ. กรุงเทพฯ: กลุ่มงานบริหารและจัดการศึกษา.
Bass, B. M. & Riggio, R. E. (2006). Transformational leadership (2nd ed.). New Jersey: Lawrence Erlbaum Associates.
Fullan, M. (2023). Leading in a digital world: Educational leadership in the age of technology. Toronto: Pearson.
García-Morales, V. et al. (2012). Transformational leadership influence on organizational performance through organizational learning and innovation. Journal of Business Research, 65(7), 1040-1050.
Latif, K. F. et al. (2020). Impact of transformational leadership on knowledge sharing and innovation capability: An empirical study in the Asian context. International Journal of Innovation, Creativity and Change, 11(3), 421-441.
Leithwood, K. & Jantzi, D. (2000). The effects of transformational leadership on organizational conditions and student engagement with school. Journal of Educational Administration, 38(2), 112-129.
Prensky, M. (2019). Education to better their world: Unleashing the power of 21st-century kids. New York: Teachers College Press.
Sharma, G. & Singh, A. (2021). Leadership for the future: A framework for 21st-century educational institutions. Educational Management Administration & Leadership, 49(2), 175-194.
Spillane, J. P. (2006). Distributed leadership. San Francisco, CA: Jossey-Bass.
UNESCO. (2024). The future of education: Leadership, innovation, and equity. Paris: UNESCO Publishing.
World Bank. (2023). Education at a crossroads: Digital transformation and leadership in Southeast Asia. Washington, DC: World Bank Group.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

