การบูรณาการหลักพุทธธรรมาภิบาลเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการบริหารงาน ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน

ผู้แต่ง

  • พุทธิพงษ์ กันทะรส มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การบูรณาการ, พุทธธรรมาภิบาล, ประสิทธิผลการบริหารงาน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาประสิทธิผลของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน 2. ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน และ 3. นำเสนอการบูรณาการหลักพุทธธรรมาภิบาลเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน เป็นวิจัยแบบผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามที่ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.801 เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 177 รูปหรือคน โดยสุ่มจากประชากรทั้งหมด 315 รูปหรือคน จากสูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ซึ่งทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิและการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ และการสนทนากลุ่มเฉพาะ ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน และกลุ่มผู้รับบริการ รวมจำนวน 27 รูปหรือคน จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปผลการศึกษาด้วยเทคนิคเชิงพรรณนา

ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิผลของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน ได้แก่ 1. การปฏิบัติงานตามหลัก 7S 1 ด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 2. หลักพละ 4 3 ด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ .05 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3. รูปแบบพุทธบูรณาการหลักพุทธธรรมาภิบาลเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลัย วิทยาเขตภาคเหนือตอนบน โดยบูรณาการหลักพุทธธรรมาภิบาล (พละ 4) พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างโปร่งใส ยึดหลักจริยธรรม และใช้โมเดล 7S เพื่อปรับปรุงการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เอกสารอ้างอิง

คณิตดา กรรณสูต. (2565). พุทธวิธีการบริหารจัดการองค์กรคุณภาพของบริษัทมหาชนจำกัด (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ชรินทร์ มั่งคั่ง. (2559). ภาวะผู้นำคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานการเรียนรู้สังคมศึกษา. เชียงใหม่: โรงพิมพ์ไดมอนด์ กราฟิก กรุ๊ป.

ถวิลวดี บุรีกุล. (2561). หลักธรรมาภิบาลจากแนวคิดสู่การปฏิบัติในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.

ทิวากร แก้วมณี. (2559). ธรรมาภิบาล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สยามปริทัศน์.

ธงชัย คล้ายแสง. (2562). หลักธรรมาภิบาลกับการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่. วารสารวิจัยวิชาการ, 2(2) : 177-188.

พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2557). ชูหลักพุทธบูรณาการพัฒนาจิตใจ-สังคม. สืบค้น 25 กันยายน 2566, จาก https://www.mcu.ac.th/news/detail/11029

พระมหาปรีชา เขมนนฺโท. (2561). การประยุกตหลักอิทธิบาทธรรมเพื่อการบริหารจัดการ สำนักปฏิบัติธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาวิเศษ กนฺตธมฺโม. (2564). พุทธบูรณาการเพื่อการพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานของ เทศบาลเมืองในจังหวัดชลบุรี (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สร้อยตระกูล ติวยานนท์ อรรถมานะ. (2545). พฤติกรรมองค์กร : ทฤษฎีและการประยุกต์.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุเมธ แสงนิ่มนวล. (2552). ภาวะผู้นำกับธรรมาภิบาลในการบริหารงานองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: ส.เจริญการพิมพ์.

สุรพล สุยะพรหม และสุทธิรัก ศรีจันทร์เพ็ญ. (2553). ระเบียบวิธีวิจัยทางการจัดการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-09-09

รูปแบบการอ้างอิง

กันทะรส พ. (2024). การบูรณาการหลักพุทธธรรมาภิบาลเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการบริหารงาน ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวิทยาเขตภาคเหนือตอนบน. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 13(5), 471–483. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/280582