ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การกับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ผ่านตัวแปรสื่อจิตวิญญาณในการทำงาน: กรณีศึกษาพนักงานขององค์การธุรกิจด้านอุตสาหกรรมล้อแม็กรถยนต์แห่งหนึ่งในประเทศไทย
คำสำคัญ:
การรับรู้, การสนับสนุนจากองค์การ, ผลการปฏิบัติงาน, จิตวิญญาณในการทำงานบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับของการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ จิตวิญญาณในการทำงาน และผลการปฏิบัติงานของพนักงาน และ 2. ศึกษาการเป็นตัวแปรสื่อของจิตวิญญาณในการทำงาน ในความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การและผลการปฏิบัติงานของพนักงาน การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งทำการเก็บข้อมูลจากพนักงานขององค์การธุรกิจด้านอุตสาหกรรมล้อแม็กรถยนต์แห่งหนึ่งในประเทศไทยจำนวน 204 คน โดยขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้สูตรคำนวณของ Krejcie & Morgan (1970) จากจำนวนประชากร 480 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบช่วงชั้น และสถิติทดสอบ Z (Z-test)
ผลการศึกษาพบว่า 1. พนักงานในองค์การมีระดับการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ จิตวิญญาณในการทำงาน และผลการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมาก และ 2. จิตวิญญาณในการทำงานเป็นตัวแปรสื่ออย่างสมบูรณ์ในความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การและผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากองค์การ เช่น การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการ การพัฒนาและการฝึกอบรม และการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ผ่านจิตวิญญาณในการทำงาน
References
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2559). การวิเคราะห์สถิติ: สถิติสำหรับบริหารและวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 16). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นุรฟิตตรี เจ๊ะอาแว. (2559). ภาวะผู้นำจิตวิญญาณในที่ทำงานสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่). Journal of Behavioral Science, 22(2), 1686-1442.
รัชนีกร กุญแจทอง. (2555). การสนับสนุนจากองค์การที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ จังหวัดขอนแก่น. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 19(2), 17-25.
สุนันทา เลาหนันทน์ (2542). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
อัมพิกา สุนทรภักดี. (2559). การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ การรับรู้ความสามารถของตนเองด้านอาชีพ และผลการปฏิบัติงานของพนักงานขายในธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
อุทัยวรรณ สายพัฒนะ และฉัตรศิริ ปิยะพิมลสิทธิ์. (2547). Collinearity. วารสารปาริชาต, 17(1), 55-62.
Albuquerque, I. F., et al. (2014). Primary health care services: workplace spirituality and organizational performance. Journal of Organizational Change Management, 27(1), 59–82.
Ashmos, D. P., & Duchon, D. (2000). Spirituality at work: A conceptualization and measure. Journal of Management Inquiry, 9(2), 134–145.
Baron, R. M., & Kenny, D. A. (1986). The moderator-mediator variable distinction in social psychological research: Conceptual, strategic, and statistical considerations. Journal of Personality and Social Psychology, 51(6), 1173-1182.
Baruch, Y. (1999). Response rate in academic studies-A comparative analysis. Human relations, 52(4), 421-438.
Blau, P. M. (1964). Exchange and power in social life. New York: Wiley.
Chino M., R. (2012). The impact of organizational support on work spirituality, organizational citizenship behaviour and job performance: The case of Zimbabwe’s small and medium enterprises (SME) sector. African Journal of Business Management, 6(36), 10003-10014.
Eisenberger, R., et al. (1986). Perceived organizational support. Journal of Applied psychology, 71(3), 500-507.
Islam, T., et al. (2019). Workplace spirituality in South Asian context: The role of learning culture organizational support and knowledge sharing. South Asian Studies, 34(1), 195-212.
Jin, L., & Zhong, Y. (2014). Contextual factors affecting the influence of perceived organizational support on team innovative performance. Social Behavior and Personality: an international journal, 42(3), 517-528.
Koopmans, L., et al. (2014). Improving the individual work performance questionnaire using rasch analysis. Journal of Applied Measurement, 15(2), 123-148.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
Laabs, J.J. (1995). Balancing spirituality and work. Personnel Journal, 74(9), 60-76.
Marques, J., et al. (2005). Spirituality in the workplace: Developing an integral model and a comprehensive definition. Journal of American Academy of Business, 7(1), 81-91.
Neck, C. P., & Milliman, J. F. (1994). Thought self-leadership: Finding spiritual fulfillment in organizational life. Journal of Managerial Psychology, 9(6), 9-16.
Petchsawang, P., & Duchon, D. (2009). Measuring workplace spirituality in an Asian context. Human Resource Development International Journal, 12(4), 459-468.
Putri, K., et al. (2018). The influence of POS on employee performance with job satisfaction as a mediator. Journal of Accounting Management and Economics, 20(2), 18-29.
Shen, Y., et al. (2014). Linking perceived organizational support with employee work outcomes in a Chinese context: Organizational identification as a mediator. European Management Journal. 32(3), 406-412.
Sobel, M. E. (1982). Asymptotic confidence intervals for indirect effects in structural equation models. Sociological methodology, 13, 290-312.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น