การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำนักเรียนของโรงเรียน ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม, ภาวะผู้นำนักเรียน, โรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำนักเรียน 2. ทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำนักเรียนและ 3. ปรับปรุงหลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานีเป็นการวิจัยเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนโรงเรียนวัดป่างิ้ว ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 อายุระหว่าง 10-11 ปี เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตพฤติกรรม และแบบประเมินความเหมาะสมของหลักสูตรรวบรวมข้อมูลแล้วทำการวิเคราะห์ โดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1.การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาภาวะผู้นำนักเรียนมี 6 องค์ประกอบ โดยแบ่งเป็น 4 โมดูล 1) เป็นตัวอย่างที่ดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่ 2) กล้าแสดงออก 3) ทำงานเป็นทีมและ 4) ให้กำลังใจผู้อื่นและมีจิตอาสา 2. ผลการทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำนักเรียนของนักเรียน พบว่า 1) พฤติกรรมภาวะผู้นำนักเรียนของนักเรียน ในภาพรวมหลังการฝึกอบรมมีค่าสูงกว่าก่อนการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 2) ผลการประเมินความเหมาะสมของหลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำนักเรียนของนักเรียน อยู่ในระดับมาก 3) การปรับปรุงหลักสูตร ในโมดูลที่ 2 คือ เนื้อหา ระยะเวลาและภาษา
เอกสารอ้างอิง
กนิษฐ์นันท์ พรหมปฏิมา. (2559). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้นำนักเรียนกลุ่มโรงเรียนเฉลิมพระเกียรตินวมินทราชูทิศ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำวิทยาลัยปรัชญาและการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
กริช อัมโภชน์. (2549). การสร้างหลักสูตรและโครงการฝึกอบรมใน เอกสารประกอบการบรรยายการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานฝึกอบรม. กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
กษมาพร ทองเอื้อ. (2555). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนมาตรฐานสากล (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ชูชัย สมิทธิไกร. (2556). การฝึกอบรมบุคลากรในองค์กร (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิชาภพ พันธุ์แพ. (2554). ผู้นำกับการจัดการการเปลี่ยนแปลง (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรวุฒิ จิรสุจริตธรรม. (2553). การพัฒนาหลักสูตรเสริมเพื่อพัฒนาทักษะผู้นำเยาวชนใน โรงเรียนอาชีวศึกษาคาทอลิก (ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สิปปนนท์ เกตุทัต. (2535). ความรู้สู่อนาคต. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Armistead, K. J. (2012). How African American Students Define Leadership (Ed.D. Dissertation). University of California, Santa Barbara and California Polytechnic State University.
Haye, R. H. (2012). A Study of Urban Middle School Teachers' Reports on how Instruction in Character Education Contributes to Students' Leadership Practices (Ed.D. Dissertation). Hartford: University of Hartford.
Kouzes, J. M. & Posner, B. Z. (2008). The Student Leadership Challenge: Five Practices for Exemplary Leaders. New Jersey: Prentice-Hall.
Lipkin, T. (2010). The Creation of a Manual for a Diversity Leadership Training Program for Suburban High School Students (Psy.D. Dissertation). Rutgers The State Universityof New Jersey: Graduate School of Applied and Professional Psychology.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

