นวัตวิถีภูมิปัญญาวิถีพุทธสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
คำสำคัญ:
นวัตวิถี, วิถีพุทธ, การท่องเที่ยวบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. พัฒนาชุดความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และ 3. เพื่อสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยววิถีพุทธ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เป็นการวิจัยผสานวิธี (Mixed Methods Research) ประกอบด้วย การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative) เป็นหลักและสนับสนุนด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative) โดยสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) ซึ่งเป็นตัวแทนชุมชน ภาครัฐ พระสงฆ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จำนวน 24 รูปหรือคน แบบสอบถามเชิงปริมาณ 400 รูป/คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะ จำนวน 10 รูป/คน
ผลการวิจัยพบว่า 1. ชุดความรู้ ได้แก่ ทรัพยากรการท่องเที่ยว ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและวัฒนธรรม รวมถึงเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนในเขตอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ วิถีชีวิต สังคมวัฒนธรรม และได้ร่วมกิจกรรมการทำผลิตภัณฑ์ชุมชนร่วมกับชาวบ้าน 2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้แก่ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์และป้ายสินค้า โดยคำนึงถึงรูปแบบ ความแข็งแรง ราคาที่เหมาะสม ความสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ความงาม ความสะดวกในการใช้งาน การดูแลรักษา ความปลอดภัย และการขนส่งที่รวดเร็ว และ 3. การสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสามารถจัดทำเป็นกลยุทธ์ หรือองค์ประกอบที่สำคัญได้ 7 ด้าน ซึ่งสามารถกำหนดเรียงลำดับความจำเป็นในการนำไปปฏิบัติจากผลการวิจัย ได้แก่ การมีส่วนร่วมของชุมชน ขีดความสามารถในการรองรับ การบริการแก่นักท่องเที่ยว การบริหารจัดการการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ชุมชนทางการท่องเที่ยว กิจกรรมและกระบวนการท่องเที่ยว รวมถึงทรัพยากรการท่องเที่ยว
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2564). ข้อมูลจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. สืบค้น 1 มีนาคม 2565, จาก http://www.dla.go.th/work/abt/summarize.jsp
ฐปนัท แก้วปาน และคณะ (2563). หลักการและแนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 22(2), 161-170.
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19). (2563, 5 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 137 ตอนพิเศษ 52 ง. หน้า 13.
วัชราภรณ์ จันทร์ขำ. (2547). ศักยภาพของชุมชนไทลื้อในการจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กรณีศึกษาบ้านดอนมูล อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน (รายงานการวิจัย). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สมจินตนา จิรายุกุล. (2558). การพัฒนากระบวนการเรียนรู้การบริหารจัดการที่ดีและการออกแบบผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนเขตธนบุรีโดยชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
สุจิตราภรณ์ จุสปาโล. (2554). การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่เกาะสาหร่าย จังหวัดสตูล (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการอุดมการศึกษา.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2564). สช. ย้ำ พลังชุมชน คือ ปราการด่านหน้าเอาชนะโควิด 19. สืบค้น 1 มีนาคม 2565, จาก www.nationalhealth.or.th
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. (2552). มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: กระทรวงวัฒนธรรม.
อัจฉริยาพร คันธมาลาเจริญ. (2564). การพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวในแนวทางการท่องเที่ยว 4.0 กรณีศึกษาพื้นที่ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต สาขาการวางผังเมืองและสภาพแวดล้อม). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
Department of Local Administration. (2022). Summarize for numbers of Thai local government organizations. Retrived March 1, 2022, from http://www.dla.go.th/work/abt/summarize.jsp
Krejcie, R.V. & Morgan, D.E. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Journal Education and Psychological Measurement, 30(3), 608.
The World Bank. (2021). Impact of COVID-19 on Thailand’s households – Insights from a rapid phone survey. Retrived March 1, 2022, from https://blogs.worldbank.org/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

