การพัฒนากลยุทธ์การบริหารจัดการคุณภาพที่ส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนในยุคดิจิทัล โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำสำคัญ:
การพัฒนากลยุทธ์, การบริหารจัดการคุณภาพยุคดิจิทัล, โรงเรียนขนาดเล็กบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็น 2. เพื่อสร้างและพัฒนากลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ 3. เพื่อทดลองใช้กลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ และ 4. เพื่อประเมินคุณภาพกลยุทธ์การบริหารจัดการคุณภาพที่ส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนในยุคดิจิทัลโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้รูปแบบวิจัยและพัฒนา มีขั้นตอนการวิจัย 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนากลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ ระยะที่ 3 ทดลองใช้กลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ ระยะที่ 4 ประเมินคุณภาพกลยุทธ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครู จำนวน 728 คน ศึกษาพหุกรณี จำนวน 3 โรงเรียน สัมภาษณ์ จำนวน 9 คน สนทนากลุ่ม จำนวน 9 คน ทดลองใช้ จำนวน 2 โรงเรียน ประชุมวิพากษ์ จำนวน 17 คน ประเมินกลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึก แบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความต้องการจำเป็น วิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการบริหารจัดการคุณภาพที่ส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนในยุคดิจิทัล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2. กลยุทธ์การบริหารจัดการคุณภาพที่ส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย 7 กลยุทธ์ คือ 1) กลยุทธ์กำหนดจุดมุ่งหมายขององค์การ 2) กลยุทธ์ดำเนินงานที่สอดคล้องกับยุคดิจิทัล 3) กลยุทธ์สร้างเครือข่าย 4) กลยุทธ์นำสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ 5) กลยุทธ์ทำงานที่เน้นความพึงพอใจของผู้รับบริการ 6) กลยุทธ์ดำเนินงานที่มุ่งประสิทธิภาพขององค์การ 7) กลยุทธ์ประเมินผลการปฏิบัติงานในยุคดิจิทัล
3. การทดลองใช้กลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4. ผลการประเมินคุณภาพกลยุทธ์และคู่มือการใช้กลยุทธ์ โดยภาพรวมมีความเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). แผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
ไชยา ภาวะบุตร และคณะ. (2563). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. วารสารการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 9(33), 1-11.
ทัศพร ปูมสีดา. (2559). การนำเสนอกลยุทธ์การบริหารโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา (ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มนตรี พันธ์พงศ์วัฒนา. (2559). ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ดุษฎีนิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา). เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
ศิริราวรรณ์ นิลวรณ์ และคณะ. (2557). ยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กในเขตภาคเหนือตอนบนให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้. วารสารบริหารการศึกษา มศว, 10(19), 52-61.
สมชัย วงษ์นายะ. (2557). การพัฒนาแผนกลยุทธ์การพัฒนาคุณภาพการศึกษาสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร (ดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การบริหารและการพัฒนา). กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
สุรพล พิมพ์สอน. (2557). กลยุทธ์การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 (ดุษฎีนิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การบริหารและการพัฒนา). กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2563). นโยบายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
______. (2562). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30 (3),607-610.
Moxley, S.E. (2003). Strategic Planning Process Used in School Districts in theSoutheastern United State. Dissertation Abstracts International, 64(02), 359-413.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

