ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 2 – 3 ปี ของผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง จังหวัดอุดรธานี
คำสำคัญ:
พัฒนาการเด็กอายุ 2-3 ปี, พฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก, ผู้ดูแลเด็กอายุ 2-3 ปีบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 2 – 3 ปี ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ดูแลเด็ก จำนวน 121 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ แบบสอบถามการรับรู้อุปสรรค การรับรู้ความสามารถของตนเอง การสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 2 – 3 ปี เก็บรวบรวมข้อมูลเดือนมิถุนายน 2565 สถิติที่ใช้ คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Stepwise multiple logistic regression
ผลการวิจัย พบว่า การรับรู้ประโยชน์ มีผลต่อพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 2 -3 ปี ของผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง จังหวัดอุดรธานี มีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 (r = 0.854, p =<0.001) และการสนับสนุนทางสังคมมีผลต่อพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 2 -3 ปี ของผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง จังหวัดอุดรธานี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 (r = 0.874, p =<0.001) ดังนั้น พยาบาลควรมีการส่งเสริมการรับรู้ประโยชน์ และเป็นแรงสนับสนุนทางสังคมให้ผู้ดูแลเด็กในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 2 -3 ปี
References
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2559). คู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็ก0-5 ปี สำหรับผู้ปกครอง. สืบค้น 14 พฤษภาคม 2565, จาก https://shorturl.asia/HnOm6
กระทรวงสาธารณสุข. (2564). แบบรายงานความก้าวหน้าผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการประเด็นการตรวจสอบเพื่อสนับสนุนการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผล ประจากระทรวงสาธารณสุข. สืบค้น 29 กันยายน 2564, จากhttps://nich.anamai.moph.go.th/th/general-of-50/204371
ขนิษฐา หะยีมะแซ. (2556). การศึกษาเปรียบเทียบการสนับสนุนทางสังคมในผู้ดูแลเด็กกลุ่มอาการออทิซึมและเด็กพัฒนาการสมวัยที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม) สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย และคณะ. (2556). ตำรา พัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก เล่ม 3 การดูแลเด็กสุขภาพดี. กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์ จำกัด.
นันทภัค ชนะพันธ์ และคณะ. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมและการรู้จักตนเองกับการคืนความสำคัญให้ตนเองของผู้ป่วยหญิงโรคซึมเศร้า. วารสารสภาการพยาบาล, 28(2), 44–57.
ภควดี นนทพันธ์. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของผู้เลี้ยงดูเด็ก. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 1(3), 10–24
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (2560). คู่มือสำหรับพ่อแม่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอน วัยเด็กเล็ก 0 – 3 ปี. กรุงเทพฯ: ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
ลาวัลย์ ทาวิทะ และคณะ. (2559). พฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการทารกเกิดก่อนกำหนดของผู้ดูแลหลักและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. พยาบาลสาร, 43(4), 12–22.
วันเพ็ญ มโนวงศ์. (2550). การรับรู้ประโยชน์ สมรรถนะแห่งตน และพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัยหัดเดินของมารดา (พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์) เชียงใหม่: มหาวิทยาเชียงใหม่.
ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี. (2562). รายงานการขับเคลื่อนมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวิต ประจำปีงบประมาณ 2562. อุดรธานี: หจก.เอวี โปร เกรสซีฟ.
สุภาวิณี ลายบัว. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองกับความรู้ของผู้ปกครองในการ สร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ในสถานศึกษาเขตอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการบริหารการศึกษา. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
หนึ่งฤทัย เกื้อเอียด, และคณะ. (2561). สถานการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพัฒนาการของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี: การทบทวนวรรณกรรม. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสารธสุขภาคใต้, 5(1), 281 – 269.
อรุณ จรวัฒน์กุล. (2558). สถิติทางวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อการวิจัย. กรุงเทพฯ: ส. เอเขียเพรส (1989) จำกัด.
อัจฉราพร ปิติพัฒน์ และคณะ. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของผู้ดูแลเด็กวัยเตาะแตะ. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 34(3), 1 – 10.
Pender, N.J., et al., (2006). Nursing Practice. 5th (ed). New Jersey: Pearson Education, Inc.
Johnson, A. (2019). CHLD GROWTH AND DEVELOPMENT. College of the Canyons. Chancellor’s Office.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น