การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์
คำสำคัญ:
รูปแบบ, การบริหารการศึกษา, การบริหารงานนวิชาการบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์ 2. สร้างและพัฒนารูปแบบ 3. ประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ การวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 265 คน และครูวิชาการ จำนวน 265 คน จากโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขต และ 2) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 12 คน และครูวิชาการ จำนวน 12 คน จากโรงเรียนที่มีผลการปฏิบัติในการบริหารงานวิชาการที่เป็นเลิศ จำนวน 4 เขต เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และแบบประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการ ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์โดยหา ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความถี่ ร้อยละ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1. ขอบข่ายการบริหารงานวิชาการที่มีความสำคัญตามแนวคิดของนักวิชาการและนักการศึกษา ประกอบด้วยองค์ประกอบ 7 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอน การนิเทศการศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การวัดผลประเมินผล การเทียบโอน และการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา 2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้มีชื่อว่า SET4D Model 3. ผลการประเมินรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พิจารณาตรวจสอบยืนยันด้านความถูกต้อง ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน
เอกสารอ้างอิง
กนก ศิริมี. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะผู้บริหารกับสมรรถนะการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 7, 53-60.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
กัลยา ไผ่เกาะ. (2546). รูปแบบการพัฒนาผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล สังกัด กระทรวงกลาโหม ด้านบทบาททางวิชาการ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
กุลธิดา เลนุกูล. (2554). ตัวชี้วัดการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ทองใส เทียบดอกไม้. (2545). คู่มือการพัฒนาวิชาการโรงเรียนบ้านหนองแสง. มหาสารคาม: โรงเรียนบ้านหนองแสง.
เทิดเกียรติ ขันธ์พิมูล. (2560). รูปแบบการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโดยใช้กระบวนการทำงานเป็นทีมในโรงเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ธีระพร อายุวัฒน์. (2552). แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2535). การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพฯ.
ปิยนันท์ แซ่จิว. (2560). การพัฒนาหลักสูตรการบริหารจัดการวิชาการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัด องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). บุรีรัมย์: มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
เพชริน สงค์ประเสริฐ. (2550). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโดยยึดหลักการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
เพียรพันธ์ กิจพาณิชย์เจริญ. (2552). ศึกษาสมรรถนะการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตหนองแขม (สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ยุทธนา เกื้อกูล. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสร้างผู้เรียนสู่ความเป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอิสลามศึกษา). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
โยธิน สิทธิประเสริฐ. (2560). กลยุทธ์การบริหารจัดการเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 (ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
รุ่งเรือง สุขาภิรมย์. (2545). ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการนํานโยบายการปฏิรูปการศึกษาไปปฏิบัติในระดับสถานศึกษา ประสบการณ์จากนานาต่างประเทศ. วารสารวิชาการ, 4(2), 9- 10.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2562). สรุปผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562. สืบค้น 16 มีนาคม 2565, จาก www.newonetresult.niet
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2551). สมรรถนะในระบบข้าราชการพลเรือนไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2549). เกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของคุรุสภา พ.ศ. 2537. กรุงเทพฯ: คุรุสภา.
สุรัตน์ ดวงชาทม. (2549.) การพัฒนาสู่ความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ : กรณีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคามเขต 2 (ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สุวิมล โพธิ์กลิ่น. (2549) การพัฒนารูปแบบเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็ก. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

