การรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาเชิงพื้นที่ชุมชนตรอกวังหลัง เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
การรับรู้, การมีส่วนร่วม, การพัฒนาเชิงพื้นที่บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการรับรู้ การมีส่วนร่วม และความต้องการพัฒนาพื้นที่ของประชาชน 2) เปรียบเทียบการรับรู้ การมีส่วนร่วม และความต้องการพัฒนาพื้นที่ของประชาชน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ กับการมีส่วนร่วมและความต้องการพัฒนาพื้นที่ของประชาชน และ 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความต้องการพัฒนาพื้นที่กับการมีส่วนร่วมของประชาชน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จากการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ 250 ครัวเรือนในพื้นที่ชุมชนตรอกวังหลัง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์เพียร์สัน ประมวลผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนมีการรับรู้และมีความต้องการพัฒนาพื้นที่ อยู่ในระดับปานกลาง และมีส่วนร่วมอยู่ในระดับน้อย ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชาชนที่มีอายุและสถานภาพสมรสต่างกันมีส่วนร่วมของประชาชนแตกต่างกัน ส่วนประชาชนที่อาชีพต่างกันมีความต้องการของประชาชนในการพัฒนาพื้นที่ต่างกัน ในขณะที่การรับรู้ของประชาชนมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมและมีความสัมพันธ์กับความต้องการของประชาชน ส่วนความต้องการของประชาชนมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
References
เดลินิวส์. (2563). สัญจร “ชุมชนตรอกวังหลัง” สอนภาษาผู้ค้าดึงนักท่องเที่ยว. สืบค้น 13 มีนาคม 2563, จาก www.dailynews.co.th/bangkok/759666
เดโช แสนภักดี. (2546). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในโครงการ "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์" ของสมาชิกกลุ่มอาชีพ จังหวัดขอนแก่น (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรม). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ถวิลวดี บุรีกุล. (2551). การมีส่วนร่วม: แนวคิด ทฤษฎี และกระบวนการ. ใน เอกสารประกอบการศึกษาดูงานของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา วันที่ 17 มิถุนายน 2551. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
นิภาพร รัตนปริยานุช. (2556). ความต้องการในการพัฒนาชุมชนของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี (ปัญหาพิเศษปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป). ชลบุรี: วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี. (2561, 13 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134 ตอนที่ 82. หน้า 1.
วิรัช สงวนวงศ์วาน. (2546). การจัดการพฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: เพียร์สันเอ็ดดูเคชั่น.
สำนักงานเขตบางกอกน้อย. (2563). ข้อมูลชุมชนในเขตบางกอกน้อยที่จัดตั้งตามระเบียบกรุงเทพมหานคร. สืบค้น 13 มีนาคม 2563. จากhttp://www.bangkok.go.th/bangkoknoi/page/sub/21263/
สุจันทรา สะพุ่ม. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในนโยบายการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ ททท. กรณีศึกษา: เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี (การค้นคว้าอิสระปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร. (2562). สำนักการโยธา กทม.ลงพื้นที่สำรวจย่านวังหลัง...เพื่อเตรียมปรับปรุงทัศนียภาพให้เห็นถนนคนเดินแห่งใหม่. สืบค้น 21 เมษายน 2563, จาก http://203.155.220.238/dpw/index.php/yota-news/yota-news-activity/5129-news-activity-1-18-12-62
อุทัย ปริญญาสุทธินันท์. (2561). การพัฒนาชุมชน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Cohen, J.M. & N.T. Uphoff. (1980). “Participation’s Place in Rural Develop : Seeking Clarity Through Specificity” World Development 8(3) 213 – 235.
Champoux, J. E. (2006). Organization Behavior: Integrating, Groups, and Organization. New York: Thomson/South – Western.
Mowen, J. C. & Monor, M. (1998). Consumer Behavior. 5th ed. Upper Saddle River, New Jersey: Prentice – Hall.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น