ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
คำสำคัญ:
ปัญหาและอุปสรรค, การปฏิบัติตามกฎหมาย, การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐในตำแหน่งระดับบริหาร จำนวน 10 ราย หัวหน้างาน จำนวน 21 ราย ระดับปฏิบัติการ จำนวน 19 ราย และนักวิชาการ จำนวน 2 ราย รวมถึงใช้เทคนิคการสนทนากลุ่มกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 2 กลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม มีดังนี้ (1) ผู้ปฏิบัติยังขาดความรู้ ความเข้าใจในหลักกฎหมาย (2) ผู้บริหารมีการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง มีระบบอุปถัมภ์ ระบบเครือญาติ
(3) เจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนไม่สามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวมได้ (4) การเพิกเฉยต่อพฤติการณ์การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมในหน่วยงาน (5) ขาดระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ หน่วยงานของรัฐไม่มีระบบตรวจสอบการเชื่อมโยงผลประโยชน์จากบุคคลที่หนึ่งไปยังบุคคลที่สองและบุคคลที่สาม
(6) ความลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมาย (7) องค์กรที่กำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายขาดความเป็นกลางและไม่มีอิสระอย่างแท้จริง และ (8) ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรมที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม
เอกสารอ้างอิง
กัมปนาท วงษ์วัฒนพงษ์ และคณะ. (2563). การสำรวจและประเมินผลความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม. วารสารวิชาการ ป.ป.ช., 13(2), 66-90.
วัชรา ไชยสาร และวรวุฒิ รักษาวงษ์. (2562). การศึกษากลุ่มอิทธิพลซึ่งนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบจำแนกตามภาคเศรษฐกิจ: กรณีศึกษาการทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีศุลกากรในประเทศไทย. วารสารวิชาการ ป.ป.ช., 12(1), 2-34.
สมศักดิ์ สามัคคีธรรม. (2550). ผลประโยชน์ทับซ้อน : แนวคิดและแนวทางการป้องกันแก้ไข. วารสารร่มพฤกษ์ มหาวิทยาลัยเกริก, 25(3), 31-56.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน. กรุงเทพฯ: บี.ซี.เพรส (บุญชิน).
Kernaghan, K. & Langford, J. W. (1990). The Responsible Public Servant. Institute for Research on Public Policy. The Institute of Public Administration of Canada.
Longman Dictionary of Contemporary. (1995). Longman Dictionary of Contemporary (3rd ed). Harlow: Longman.
MacMilan Dictionary for Advanced Learners. (2002). Macmillan English Dictionary for Advanced Learners. Oxford: Macmillan Education.
McDonald, M. (2019). Ethics and Conflict of Interest. Retrieved January 13, 2019, from https://ethics.ubc.ca/peoplemcdonaldconflict-htm/
Nikolov, N. (2013). Conflict of interest in European public law. Journal of Financial Crime, 20(4), 406-421.
OECD. (2005). Managing conflict of interest in the public sector: A Toolkit. Retrieved September 15, 2020, from https://www.oecd.org/gov/ethics/49107986.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

