การดำเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวของสถานประกอบการ ที่ได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย
คำสำคัญ:
ธรรมาภิบาลสีเขียว การจัดการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบทคัดย่อ
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการดาเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวกับการจัดการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ของสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดาเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวของอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดการอุตสาหกรรมของสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยจานวน 800 สถานประกอบการ ผลการศึกษาพบว่า1. การดาเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวในภาพรวม มีการดาเนินงานในระดับมาก ในรายด้าน พบว่า การให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร มีการดาเนินงานในระดับปานกลาง การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา มีการดาเนินงานในระดับปานกลาง ความโปร่งใสในการดาเนินการ มีการดาเนินงานในระดับมาก ความรับผิดชอบต่อสังคม มีการดำเนินงานในระดับมาก การกากับการปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความสมัครใจ มีการดำเนินงานในระดับมาก และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนโรงงานอุตสาหกรรม มีการดำเนินงานในระดับมาก
2. การจัดการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการดาเนินงานในระดับมาก ในรายด้าน พบว่า ความมุ่งมั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการดาเนินงานในระดับมาก การปฏิบัติการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการดาเนินงานในระดับปานกลาง ระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการดาเนินงานในระดับมากวัฒนธรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการดาเนินงานในระดับมาก และเครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการดาเนินงานในระดับปานกลาง
3. การทดสอบสมมุติฐานความสัมพันธ์ระหว่างการดาเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวกับการจัดการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พบว่า การดาเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวกับการจัดการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความสัมพันธ์ในระดับสูงมาก (Canonical Correlation =0.862)
4. การวิเคราะห์ตัวแบบเส้นทางความสัมพันธ์การดาเนินงานธรรมาภิบาลสีเขียวกับการจัดการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พบว่า การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนไม่มีอิทธิพลทางตรงกับความมุ่งมั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มีอิทธิพลทางอ้อมผ่านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม ผ่านไปยังการกาหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และการสื่อสารนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ไปยังความมุ่งมั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีอิทธิพลทางอ้อมผ่านไปยังการเคารพผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการเคารพผลต่อหลักสิทธิมนุษยชน ไปยังวัฒนธรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มีอิทธิพลทางอ้อมผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านไปยังการกาหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และการสื่อสารนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ไปยังความมุ่งมั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีอิทธิพลทางอ้อมผ่านไปยังการเคารพผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการเคารพผลต่อหลักสิทธิมนุษยชน ไปยังวัฒนธรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เอกสารอ้างอิง
Najam, Adil, Micheala Papa and Nadaa Taiyab. (2011). Global Environmental Governance: A Reform Agenda. International Institute for Sustainable Development. Ministry of Foreign Affairs of Denmark.
Office of Green Industry Development. (2556). Office of Permanent Secretary, Minisyry of Industry, Handbook of Grren Industry for Entrepreneur, 4th edition. Bangkok: Office of Permanent Secretary, Ministry of Industry.
Sofiri Joab-Peterside. (2007). Green Governance: The Case of Akassa Community Forests Management and Development Plan. California: University of California.
Surapong Sangranoo. (2560). The Guidelines For Anti Corruption in The Personnel Administration of Local Administrative Organization in The Northeastern Region. MCU Journal of Social Sciences, 6(1), 67-80.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

