การปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา
คำสำคัญ:
การปฎิรูป, กิจการพระพุทธศาสนาบทคัดย่อ
ภายใต้กระแสธารของการปฏิรูปของ “รัฐ” ไทย ที่พยายามเพื่อเสนอ “ธง” กลไกช่องทาง หรือทางออกเพื่อไปสู่การแก้ปัญหา หรือพัฒนาสังคมประเทศชาติในองค์รวม กระแสหนึ่งที่
เกิดขึ้นคาถามที่ถูกลงมากลางวงองค์กร “ศาสนา” ว่าจะมีแนวทางปรับ หรือปฏิรูปตัวเองอย่างไร ?เมื่อคาถามดังกล่าวถูกเสนอกสู่สาธารณะ มีกระแส วิพากษ์วิจารณ์กันมากขึ้นในวงกว้าง ผลก็คือการปรับท่าทีตามรัฐ ทั้งกรณีเรื่องการบริหารองค์กรที่ผูกขาด ขาดความโปร่งใสที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งปัญหาพระธรรมวินัยและการไม่ปฏิบัติตาม หรือตีความเกินกว่าความเป็นจริงนอกเหนือพระธรรมวินัย ผลก็คือเมื่อมีคาถาม แนวคิดเชิงวิพากษ์ โต้แย้ง ต่อการปรับตัวขององค์สงฆ์ภายใต้สถานการใหม่จึงเกิดขึ้น การถามหาความจริงที่บกพร่องเพื่อนาไปสู่การแก้ไข (ปฏิรูป) จนกลายเป็น“วิวาทะ” ทางสื่ออย่างที่ปรากฏในช่วงเวลาหนึ่ง การถามหาคุณค่าแท้เพื่อนาไปสู่การปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาเป็นเป้าหมายสาคัญ สภาพการณ์นั้นทาให้ “คนใน”ต้องหันกลับมาถามตัวเองว่าเราจะไปทางไหนภายใต้กระแสการปฏิรูป หนังสือเรื่อง “การปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา” ของพระพรหมบัณฑิต ที่เกิดขึ้นจากการถูกตั้งคาถาม และนี่คือคาตอบ แต่เป็นคาตอบในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงและระดับกลางของคณะสงฆ์ ที่ปาฐกถาบรรยายพิเศษโดยพระพรหมบัณฑิต ในมิติของคนในศาสนา และกรรมการมหาเถรสมาคม ทั้งยังเป็นนักการบริหารการศึกษา ในหน้าที่ของอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์ของคณะสงฆ์ไทย ซึ่งได้รับนิมนต์ไปถวายความรู้นาเสนอประเด็นชี้ช่องทางในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ในที่ประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดและผู้อานวยการสานักงานพระพุทธศาสนาประจาจังหวัดทั่วประเทศ ที่มหาเถรสมาคมและสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดขึ้น ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน๒๕๕๘ ในคาบรรยายนี้มีการกล่าวถึงสาเหตุที่มาของกระแสการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาและแผนการดาเนินการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาตามภารกิจ ๖ ด้าน (น.๖) ของคณะสงฆ์ที่สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เคยเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ดังนั้นหนังสือนี้จึงเป็นการรวมแนวคิดปาฐกถาของพระพรหมบัณฑิต ซึ่งสะท้อนให้เห็น “แสง” ที่ปลายอุโมงค์ของการ “ปฏิรูป”ที่เริ่มโดยคนในองค์กรศาสนาเอง โดยมีเป้าหมายเป็น “สิ่งที่ดีกว่า” ตามเจตนารมณ์ที่ภาครัฐกาลังดาเนินการอยู่ คือการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ซึ่งมีศาสนาเป็นแก่นแกนของสังคมรวมอยู่ด้วย และควรต้องปฏิรูปในสถานการณ์ของการเปลี่ยนผ่านนี้ด้วยเช่นกัน
References
ไทย (๑): ว่าด้วยภูมิหลังทางความคิดของการปฏิรูป, สืบค้นเมื่อ ๒๐ กรกฎาคม
๒๕๕๙, ที่มาออนไลน์ : http://www.prachatai.com
นิธิ เอียวศรีวงศ์,ประมวล เพ็งจันทร์. การปฏิรูปพระพุทธศาสนาในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร
: กองทุนรักษ์ธรรมเพื่อการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา,๒๕๔๓.
พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต), การปฏิรูปกิจารพระพุทธศาสนา. พระนครศรีอยุธยา :
เทียนวัฒนาพริ้นท์ติ้ง. ๒๕๕๘.
พระไพศาล วิสาโล, พระพุทธศาสนาไทยในอนาคตแนวโน้มและทางออกจากวิกฤติ.
กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิโกมล คีมทอง. ๒๕๕๕.
พระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี (มากคล้าย),การปฏิรูปโครงสร้างคณะสงฆ์ไทย อย่าให้เทียน
ดับที่ปลายอุโมงค์?, สืบค้นเมื่อ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๙, ที่มาออนไลน์ :
http://www.prachatai.com/journal/2015/03/58269
พระศรีคัมภีร์ญาณ (สมจินต์ สมฺปาปญฺโญ), “ความเข้มแข็งของสถาบันสงฆ์ ปริมาณหรือคุณภาพ”,
ในสารนิพนธ์บัณฑิต : Buddhist Graduates, Dessertation ประจาปี ๒๕๕๖.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ๒๕๕๖.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2016 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น