รูปแบบการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สนุก สิงห์มาตร; ภักดี โพธิ์สิงห์; สัญญา เคณาภูมิ

ผู้แต่ง

สนุก สิงห์มาตร คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ภักดี โพธิ์สิงห์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
สัญญา เคณาภูมิ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

คำสำคัญ:

รูปแบบ, การแสดงออกทางการเมือง, ปัจจัยที่ส่งผลต่อการแสดงออก

บทคัดย่อ

บทความวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาระดับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียหนือ ๒) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนภาคในตะวันออกเฉียงหนื และ ๓) เพื่อสร้างรูปแบบและยื่นยันรูปแบบการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการวิจัย พบว่ ระดับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนื โดยรวมอยู่ในระดับมากปัจจัยที่ส่งผลต่อการแสดงออกทาการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า มีปัจจัยพยากรณ์ ๙ ปัจจัย โดยมีคำสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ เท่กับ ๐.๘๖๘ และคำสัมประสิทธิ์ของการพยกณ (ห่ เท่กับ ๐.๗๓ แสดงว่า สามารถพยกรณ์การแสดงออกทางการเมืองได้ร้อยละe๕.m๐ ผลการสร้ารูปแบบการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยใช้เทคคการสนทนากลุ่ม ปรากฏว่ พื่อนำปัจจัยทั้งหมด ๑๒ ปัจจัยตามคำแนะนำเพื่อไปพัฒนาประชาธิปไตย ทั้งปัจเจกบุคคลและองค์กรในชุมชนภายใต้กรอบของกฎหมาย สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ทางการเมืองให้ประชาชนรับรู้ ตระหนัก ให้การยอมรับ และนำไปสู่การปฏิบัติโดยมีคุณธรม จริยธรมทางการเมืองสอดแทรกสำหรับประชาชนโดยใช้หลักการ PDCA ส่วนการยืนยันรูปแบบการแสดออกทาการเมือง พบว่ ผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็นต่อรูปแบบโดยภาพรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยสรุป รูปแบบการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้จากการวิจัยในครั้งนี้ สามารถนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม

References

กัลยา วานิชย์บัญชา. การใช้ spรs for windows ในการวิเคราะห์ข้อมูล, พิมพ์ครั้งที่ ๑๖.
กรุงเทพมหานคร : ธรรมสาร. ๒๕๕๓.
ชัยอนันต์ สมุทรวาณิช. ประชาธิปไตย: คอมมิวนิสต์กับการเมืองไทย. พิมพ์ครั้งที่ต.
กรุงเทพมหานคร : ดวงดีการพิมพ. ๒๕๒๓.
ทินพันธุ์ นาคะตะ. รัฐศาสตร์ ทฤษฎีความคิด ปัญหาสำคัญและแนวศึกษาวิเคราะห์ทาง
การเมือง. กรุงเทพมหานคร. จัดพิมพ์โดยสมาคมรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า ครั้งที่ ๔:
ศิริชัย กาญจนวาสี. ทฤษฎีการประเมิน. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๒๕๕๒.
สมบัติ ชำรงธัญวงศ์. การเมืองไทย. กรุงเทพมหานคร : เสมาธรรม. b๕๔๙.
สำราญ มีแจ้ง. สถิติชั้นสูงสำหรับการวิจัย ทฤษฎีและปฏิบัติ. กรุงทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย. ๒๕๕๗.
นิมิตร โสชารี. "รูปแบบการพัฒนาองค์กรแห่การเรียนรู้ของเทศบาลตำบลในเขตภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ". วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๒
พฤษภาคม-สิงหาคม ๒๕๕๙
บดีปุษยายนันท์, เศกสรรค์ ยวณิชย์ และ ประสิทธิ์ คุณุรัตนน. "รูปแบบเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัด
ขอนแก่น". วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์. ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓ กันยายน -
ชั้นวาคม ๒๕๕๘.
พงศ์ธณัติกญจน์ พรมนิล, ภักดี โพธิสิห์, สัญญา เคณาภูมิ, เสาวลักษณ์ โกศลกิตติอัมพร.
"แนวนโยบายการให้บริการสาธารณะของเทศบาลตำบลในเขตภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ". วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์. ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓
กันยายน-ธันวาคม ๒๕๕๘.
สนุก สิงห์มาตร และสัญญา เคณาภูมิ. "ประชาธิปไตยกินได้ : ของจริงหรือแค่วาทกรรมการเมือง".
วารสารวิจัยเพื่พัฒนาสังคมและชุมชน : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, ปีที่ ๒
ฉบับที่ ๒ (๔) เดือน กุมภาพันธ. ๒๕๕๘.
b๕๔๕
กรรณิกา ชมดี. "การมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ศึกษาเฉพาะกรณี :
โครงการสารภี ตำบลทำช้าง อำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี ". วิทยานิพนธ์บัณฑิต
วิทยาลัย : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔.
ภูสิทธิ์ ขันติกุล. รูปแบบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนเขตดุสิตกรุงเทพมหานคร.
กรุงเทพมหานคร : สวนสุนันทา. ๒๕๕๓.
แดน สว่างวัฒน์. "อุดมการณ์ทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน
ตำบลจังหวัดพิษณุโลก". วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ๒๕๔๖.
เยาวภา ประคองศิลป์และคณะฯ. "ศึกษาการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบ
ประชาธิปไตยของการศึกษาขั้นพื้นฐาน", งานวิจัย. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
๒๕๕๔.
May, T. Social Research : Issu, Methods and Process. 2"d ed. Buckingham : Open
University Press, 1997.
Stufflebeam, D.L. The 21*t Century CIPP Model. In Alkin, M.C. (Ed). Evaluation
roots : Tracing theorys' views and Influences London : SAGE. 2004.
Yamane,Taro. Statistics: An Introductory Analysis. Third editio. Newyork : Harper
and Row Publication. 1973.