การบริหารจัดการองค์กรเพื่อการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้บนฐานแห่งพุทธิปัญญา
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการองค์กร, องค์กรแห่งการเรียนรู้, พุทธิปัญญาบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ) พื่อศึกษาองค์ประกอบและกระบวนการบริหารจัดการองค์กองค์แห่การเรียนรู้ตามหลักพระพุทธศาสนา ) เพื่อศึกษาปัจจยาการในการสร้างองค์กรองค์แห่งการเรียนรู้ตามหลักพระพุทธศาสนา ๓)เพื่อเสนอแนวการบริหารจัดการองค์กรเพื่อการสร้างองค์กรแห่การเรียนรู้บนฐานแห่งพุทธิปัญญา โดยตำเนินการการวิจัยเชิงคุณภาพ มุ่งศึกษาลักษณการบริหารจัดการองค์กร องค์กรแห่งการเรียนรู้และ พุทธิปัญญา จากกลุ่มประชากรตัวอย่างที่เป็นกลุ่มประชากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบและกระบวนการบริหารจัดการองค์กรองค์แห่งการเรียนรู้ตามหลักพระพุทธศาสนาองค์ประกอบของการบริหารจัดการการเรียนรู้เพื่อแสวงหาความรู้ ต้องผ่านชั้นตอนการบ่งชี้ความ, การสร้งและแสวหาความรู้, การจัดความรู้ให้เป็นระบบ, การประมวลและกลั่นกรองความรู้, การเข้าถึงความรู้ และการเรียนรู้ ด้วยการอาศัยกระบวนการ Learning by Doing๒. ปัจจยการในการสร้างองค์กรองค์แห่งการเรียนรู้ตามหลักพระพุทธศาสนา การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักพระพุทรศสนาจะต้องอาศัยปัจจยาการจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้๒.) ปัจจัยด้านคน บุคคลแต่ละบุคคลจำเป็นต้องพัฒนตนเองโดยอาศัยปัจ จยาการ คือการสร้างฝึกฝนตนเอง ๒.) ป้จจัยด้านตน (Teamwork) ในการทำงานร่วมกันในองค์กร มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะรวบรวมองค์ความรู้ (Know how) ด้วยการ Share vision และ ๒.๓) ปัจจัยด้านงาน (Organization) การปฏิบัติงานในองค์กร การพัฒนาองค์กรจะต้องสร้างการตั้งเป้าหมายขององค์กร รวมทั้งการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงหรือธำรงรักษาวิธีการปฏิบัติการที่ตี โดยต้องมีการขยายผลที่ดี ก่อให้เกิดการปฏิบัติตาม Best Practice สู่แหล่งหรือพื้นที่ข้างเคียงอันเป็นการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องแนวการบริหารจัดการองค์กรเพื่อการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้บนฐานแห่งพุทธิปัญญา เป็นกระบวนการต่งๆ ที่ะกลั่นกรองให้ได้มาซึ่งความรู้ เพื่อนำมารองรับกับการดำรงชีวิตของมนุษย์บนโลกปัจจุบันในการที่จะให้เข้าใจตนเองว่าธาตุแท้ของมนุษย์นั้นประกอบด้วยร่างกายและจิตวิญญาณ (Mid of Sou) ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ และมีสมองในการเรียนรู้ สามารถบังคับปัญญาจิตของตนด้วยสติปัญญาตามความรู้สึก จึงเป็นวิธีทาง การดำรงชีวิตตามความคิดที่ตนเองค้นพบและรับรู้จตกผลึกเป็นแก่นความรู้ที่แท้จริงในการที่จะเข้าใจตนเองและสังคมจนสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข
เอกสารอ้างอิง
การศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาสงกรณมหาวิทยาลัย, ๒๕๕๕.
บุญส่ง หาญพานิช. "การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการความรู้ในสถาบันอุดมศึกษาไทย". คร
ศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๖.
ฉลาด จันทรสมบัติ. "การพัฒนรูปแบบการจัดการความรู้ขององค์กรชุมชน". การศึกษาดุษฎี
บัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๖
Peter M. Senge . The Fifth Discipline Field book : Strategies and Tools for
Building a Learning Organization. New York : Doubleday, 1994.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2016 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

