มิติใหม่ของการบริหารองค์กรภาครัฐ
บทคัดย่อ
การบริหารองค์กรไม่ว่าจะเป็นการบริหารองค์กรภาครัฐหรือภาคเอกชนสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการบริหารนั้น คือผู้บริหารองค์กรต้องเป็นบุคคลที่มีภาวะผู้นำมีความเอาใจใส่ รวมถึงหมั่นติดตามตรวจสอบการทำงานภายในองค์กรสม่ำเสมอจึงจะทำให้การบริหารงานภายในองค์กรนั้นเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดได้ ประการต่อมาคือการกำหนดนโยบายและการวางแผนการบริหารงานถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอันดับที่สองเพราะถือเป็นหัวใจในการบริหารงาน อย่างไรก็ตามการบริหารองค์กรภาครัฐในยุคปัจจุบันนี้ตามทัศนะของผู้เขียนแล้วควรที่จะได้นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเข้ามาประยุกต์ใช้กับการบริหารเพื่อให้การบริหารงานนั้นบรรลุผลสำเร็จยิ่งขึ้น กล่าวคือ การใช้หลักอิทธิบาทธรรมมาใช้ประกอบกับการบริหารซึ่งหลักอิทธิบาทธรรมนั้นประกอบด้วย ความพอใจ ความขยันหมั่นเพียร เข้มแข็ง ความเอาใจมุ่งมั่นต่อสิ่งที่ทำ และการรู้จักพิจารณาหาเหตุผลใช้ปัญญาในการทำงานประกอบไปด้วยการวางแผน ซึ่งถ้าผู้บริหารองค์กรใช้หลักอิทธิบาทธรรมดังกล่าวประยุกต์ใช้กับการบริหารงานภายในองค์กรแล้วย่อมจะทำให้งานนั้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานมากยิ่งขึ้น
References
นโยบายศึกษา, ๒๕๔๑.
บุญทัน ดอกไธสง. ทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : ๒๕๔๓.
ยงยุทธวงศ์ ภิรมย์ศานต์. การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพมหานคร : ๒๕๔๗.
วงษ์ เลิศไพศาล.ซีเนียร์รัฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : คณะรัฐศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
๒๕๑๑.
จุมพล หนิมพานิช.กลุ่มผลประโยชน์กับการเมืองไทย = Interest groups and Thai politics.
นนทบุรี : สำนักพิมพ์ มหาิวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. ๒๕๔๕.
Dhammananda, K. Sri. Buddhism for the future. Taiwan : The Corporate Body of the Buddha Educational Foundation, 2000.
Phra Thepwisutthimethi (Nguam)., Bucknell, Roderick S. Buddha-Dhamma for students. [translated from the Thai by Ariyananda Bhikkhu (Roderick S. Bucknell)]. Bangkok : Dhamma Study & Practice Group, 1988.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2018 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น