การบริหารจัดการความอิจฉา
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการ, ความอิจฉาบทคัดย่อ
บทความเรื่องการบริหารจัดการความอิจฉา ความอิจฉานี้เป็นส่วนหนึ่งของกิริยาอาการ ที่แสดงออกทางอารมณ์ซึ่งฝังตัวหลบซ่อนสายเลือดของมนุษย์ มันเกิดมีมาพร้อมกับการมีชีวิตและลม หายใจทั้งของมนุษย์และสิ่งที่มีชีวิตทุกชนิด ความอิจฉานี้เป็นอาการนามไม่สามารถจับต้องได้ แต่ สามารถรับรู้ได้โดยการแสดงออกทางพฤติกรรมของคนเราที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของอารมณ์ชนิดนี้ ครอบงํา มนุษย์เราเคยชินกับพฤติกรรมของความอิจฉาทั้งจากตนเองบ้างและจากคนอื่นบ้างจน กลายเป็นเรื่องปกติแทบไม่ได้คิดว่ามันมีพิษสงเพียงโต และร้ายแรงแค่ไหน ประสบการณ์ที่ได้เห็นทั้ง จากพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมที่ที่ปรากฏจากที่ต่างๆ และได้ยินได้ฟังจากสื่อชนิดต่างๆ ทั้งทีวี วิทยุ และหนังสือ พิมพ์และการบอกเล่าของคนอื่นบ้างจึงอยากจะสืบค้น เสาะแสวงหาถึงสาเหตุ ลักษณะ พิษภัยและทางแก้ไขของเพชฌฆาตไร้ตัวตนชนิดนี้จากพฤติกรรมดังกล่าวนี้ ได้ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจอยากรู้อยากเห็นและอยากสืบ ค้นหาลักษณะอาการ สาเหตุ โทษและทางแก้ไขของอาการนามชนิดนี้จึงได้ตั้งประเด็นศึกษาในหัวข้อ ต่างๆ คือ ความอิจฉา คืออะไร มีลักษณะเป็นเช่นไร มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง มีโทษอย่างไรและมี วิธีแก้ไขหรือไม่เพื่อที่จะทําให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะพบกับ รายละเอียดที่จะกล่าวต่อไปจึงขอยกเอาประเด็นที่ควรทราบมากล่าวพอเป็นสังเขปคือ ความอิจฉา คือ อะไร? มันคืออาการอย่างหนึ่งที่เมื่อเห็นคนอื่นได้ดีกว่า เด่นกว่า เหนือกว่าตนแล้วทนไม่ได้ อารมณ์ โกรธ เกลียด แค้นเคียงจะเกิดขึ้นทันทีมีลักษณะเป็นเช่นไร? ความอิจฉาเมื่อทวีความรุนแรงมากขึ้นจะขยายตัวกลายเป็นความ โกรธ อาฆาต พยาบาทถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับและมักจะหาทางเอาชนะโดยวิธีการรุนแรงอย่างใด อย่างหนึ่งมีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง? ความอิจฉามีสาเหตุมาจากหลายๆอย่างด้วยกัน เพราะ ๑) ความอยากของปัจเจกบุคคล แตกต่างกัน ๒) ความคิดของปัจเจกบุคคล แตกต่างกัน ๓) ปมด้อยของ ปัจเจกบุคคลแตกต่างกัน ๔) สถานภาพของปัจเจกบุคคล แตกต่างกัน มีโทษอย่างไร ? ความอิจฉาจัดเป็นอกุศลธรรมประเภทใฝ่ต่ํา มักทําให้เกิดผลเสียทั้ง สุขภาพกายและใจ คิดมาก ฟังซ่าน หมดสง่าราศี หากขาดการระงับยับยั้งก็จะหาทางออกในทางที่เป็น อกุศล และอาจนําผลเสียมาสู่ทั้งตนเองและแก่ผู้อื่นได้มีวิธีแก้ไขหรือไม่? ทุกๆ ปัญหาย่อมมีทางแก้ไขอยู่ในตัวของมันเอง ปัญหาทุกปัญหาย่อม มีที่สุดของมันเองเสมอ ไม่มีปัญหาใดที่จะคงอยู่อย่างนั้นตลอดไป ปัญหาเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด ก็จะต้อง แก้ไขด้วยสาเหตุนั้น สอดคล้องตามพระพุทธดํารัสที่ตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคต เจ้าตรัสบอกถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้า มีปกติตรัสสอนอย่างนี้สรุปแล้ว ความอิจฉา คือ ความรู้สึกที่ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีกว่า ได้ลาภมากกว่า มี ชื่อเสียงมากกว่าและทนไม่ได้เมื่อผิดหวัง เกิดความรู้สึกกระวนกระวาย กระสับกระส่าย กินก็ไม่เป็นสุข เห็นเรื่องน่าสนุกกลายเป็นทุกข์ไปเสียสิ้นและจุดจบมักลงเอยด้วยเรื่องน่าเวทนา
References
ประกายรุ้ง, ชวนคิดชวนทํา : 9 วิธี เอาชนะความอิจฉาริษยา, [ออนไลน์]. แหล่งที่มา :http://www.manager.co.th/dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9540000067754 [๒๔ พ.ค. ๒๕๔๖].
พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ, รถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรคที่ ๒ หน้า ๑๕. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมมชโย), โทษของความอิจฉาริษยา, [ออนไลน์]. แหล่งที่มา :buddha.dmc.tv/ธรรมะเพื่อประชาชน/โทษของความอิจฉาริษยา.html[๒๓ มิ.ย.๒๕๕๖]
มูลนิธิศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา, ๒๐๑๒ โลกจะแตกจริงหรือ?, [ออนไลน์]. แหล่งที่มา :http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=20529 [๒๓ม.ย. ๒๕๕๖]
วิทยา นาควัชระ, หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันจันทร์ ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2018 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น