ผลกระทบของสภาพแวดล้อมภายนอกองค์การด้านเศรษฐกิจ และพลังการแข่งขันใน อุตสาหกรรม กับสภาพแวดล้อมภายในด้านประโยชน์เกื้อกูล และความปลอดภัยที่มีผลต่อ การปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสามเณร ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

บทคัดย่อ

การศึกษาเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านเศรษฐกิจ พลังการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความ ต้องการประโยชน์เกื้อกูลของพระภิกษุสามเณร และความปลอดภัยที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติศาสนกิจของ พระภิกษุสามเณรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีประชากรคือ พระภิกษุสามเณรที่ปฏิบัติศาสนกิจ ใน จังหวัดปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น ๗๒๐ รูป โดยตัวแปรต้นคือปัจจัยทางกายภาพของศาสน สถาน สภาพแวดล้อมภายนอกด้านเศรษฐกิจและพลังทางการแข่งขัน สภาพแวดล้อมภายในด้านประโยชน์ เกื้อกูลและความปลอดภัย ตัวแปรตามคือ ความสามารถในการปฏิบัติศาสนกิจ โดยใช้แบบสอบถามและ แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างตามสะดวก ได้กลุ่มตัวอย่างรวม ทั้งสิ้น ๒๕๙ รูป ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง ๒๐-๓๐ ปี จำนวนพรรษา ๖-๑๐ พรรษา
วุฒิทางธรรมเปรียญธรรม ๑-๓ ประโยค วุฒิทางโลกส่วนใหญ่อยู่ในระดับปริญญาตรี วัดส่วนใหญ่มีขนาด เล็ก มีพระสงฆ์จำพรรษาน้อยกว่า ๑๐ รูป ระยะทางจากอำเภอถึงตัววัด ๐-๕ กิโลเมตร ส่วนใหญ่สามารถ รับกิจนิมนต์นอกวัดได้เดือนละ ๑-๑๐ ครั้ง สามารถปฏิบัติศาสนกิจที่วัดได้ทุกวันสำคัญ สภาพเศรษฐกิจ มีผลกระทบทำให้คนมาวัดลดลง ผู้ตอบมีความเห็นด้วยระดับ “มาก” ต่อประเด็นความรุนแรงของ สถานการณ์มีผลกระทบต่อการปฏิบัติศาสนกิจเล็กน้อย แต่เห็นด้วย “น้อย” ต่อประเด็นการเปลี่ยนศาสนา กับการที่รัฐบาลช่วยเหลือเหมาะสม และมีความเห็นเกี่ยวกับควรจัดสวัสดิการต่างๆ ในระดับปานกลาง แต่คิดว่าได้รับปัจจัยสี่พอเพียงแล้ว คำถามปลายเปิดยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ต้องการรถรับส่ง งบพัฒนาวัดและสนับสนุนกิจกรรม การสัมภาษณ์พระสังฆาธิการที่ดูแลจังหวัดทั้ง ๓ พบว่า อยากให้ดูแลสวัสดิการให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ การศึกษา ความปลอดภัยในการไปเผยแผ่ ความทรุดโทรมของวัด ชาวพุทธมีจิตใจเข็มแข็ง รักสงบ แต่รัฐบาลช่วยเหลือน้อยไป ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่าควรสร้างเครือข่ายมหภาคช่วยเหลือชาวพุทธและใช้คณะกรรมการร่วมพระฆราวาสจัดสวัสดิการ รัฐบาลต้องบูรณาการงบให้ได้ประโยชน์ทั้งประกันความปลอดภัยทั้งในและนอกวัดเน้นการเผยแผ่เชิงรุก