การยกเลิกสัมปทานเหมืองแร่ทองคาชาตรีโดยคาสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ 1) เพื่อศึกษาระบบการบริหารการจัดการภาครัฐในการจัดการคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการยกเลิกสัมปทานเหมืองแร่ทองคา 2) เพื่อศึกษาแนวทางในการจัดการปัญหาที่นาไปสู่การปนเปื้อนของสิ่งแวดล้อมที่มีผลผลกระทบต่อประชาชน 3) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพโดยศึกษาวิเคราะห์ภายใต้ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกและวิธีการสนทนากลุ่ม จากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก จานวน 39 คน รวมทั้งการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม ตลอดจนเอกสารทางวิชาการ เอกสารรายงานต่าง ๆรวมถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อนามาทำการวิเคราะห์ร่วมกันอย่างเป็นระบบโดยใช้วิธีการตรวจสอบสามเส้าเชิงคุณภาพ (Triangulation)และใช้การวิเคราะห์แบบอุปนัยเป็นการตีความสร้างข้อสรุปจากปรากฏการณ์ที่สังเกตเห็น โดยมีข้อค้นพบดังนี้
1. หน่วยงานรัฐที่ควบคุม ดูแล เหมืองแร่ทองคา จะปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายเป็นหลักจึงเป็นอุปสรรคในการเข้าไปดูแลและจัดการผลกระทบของเหมืองแร่ทองคำ
2. ด้วยอำนาจ หน้าที่ ระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ ไม่สามารถยืนยันและให้รายละเอียดข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชนได้ จึงกลายเป็นช่องว่างระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน
3. การประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคา ทาให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนที่เสียประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับประโยชน์จากเหมืองแร่ทองคาด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในภาพรวม
4. หน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการสัมปทานเหมืองแร่ทองคา ขาดการ ประสานงานร่วมกัน เกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมั่น ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เป็นหัวใจหลักของการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคาจนกลายเป็นประเด็นสำคัญในการร้องเรียนถึงแม้ว่าเหมืองแร่
จะทำให้เกิดประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง มากมาย เช่น การสร้างรายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชนก็ตาม